บริษัทลงทุนระดับโลก เอเอ็ม แมเนจเมนต์(AM Management) เปิดเผยในรายงานประจำสัปดาห์ล่าสุดว่า ตลาดคริปโตกำลังเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) จะลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนกันยายน อย่างแน่นอน โดยตลาดกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนในระยะสั้นและโอกาสในการฟื้นตัวในระยะยาว
ตามรายงาน บิตคอยน์(BTC) ปิดการซื้อขายรายสัปดาห์ที่ราคา 115,268 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3.72% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนมูลค่าตลาดของสกุลเงินคริปโททั่วโลกเพิ่มขึ้น 4.76% แตะระดับ 3.96 ล้านล้านดอลลาร์ แต่แม้จะมีการฟื้นตัวโดยรวม ความโดดเด่นของบิตคอยน์และอีเธอเรียม(ETH) กลับลดลงเหลือ 57.76% และ 13.98% ตามลำดับ ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงผลักดันจากสินทรัพย์หลักที่อ่อนตัวลง
นอกจากนี้ ความนิยมของเทเธอร์(USDT) ก็ลดลงเหลือ 4.28% สะท้อนถึงสัญญาณของการชะลอตัวของแนวโน้มการสะสมสินทรัพย์เพื่อรับกับการขึ้นราคา สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า ตลาดอาจกำลังเข้าสู่ช่วงพักตัวชั่วคราว
จากมุมมองเศรษฐกิจมหภาค อัตราเงินเฟ้อผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 2.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แม้อัตราเงินเฟ้อจะกลับมาเพิ่มขึ้น แต่ตลาดยังคงให้น้ำหนักมากถึง 96.4% ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 400-425 จุดพื้นฐาน ซึ่งขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงมุมมองของธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่ออัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม และคำแถลงของประธานเจอโรม พาวเวลล์ ที่จะเป็นปัจจัยกำหนดนโยบายต่อไป
ในด้านพฤติกรรมการถือครอง นักลงทุนบางกลุ่มเริ่มกลับมานิยมสินทรัพย์ความเสี่ยง โดย เอเอ็ม แมเนจเมนต์ ระบุว่า นักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบันต่างเริ่มเปิดสถานะ Long เพิ่มขึ้น โดยจำนวนสัญญาเปิดคงค้างของฟิวเจอร์สบิตคอยน์ใน CME เพิ่มขึ้น 0.9% เป็น 26,930 สัญญา โดยเฉพาะรายย่อยที่เพิ่มการถือ Long อย่างชัดเจน ในขณะที่สถาบันเริ่มลดการถือ Long และเพิ่ม Short เพื่อลดความเสี่ยงในช่วงระดับต้านทางเทคนิค
กระแสเงินไหลเข้ากองทุน ETF ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่เสริมความแข็งแกร่งของตลาด ระหว่างวันที่ 8 ถึง 12 กันยายน กองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอตในสหรัฐมีเงินไหลเข้าสุทธิประมาณ 2.3 พันล้านดอลลาร์ นำโดย Fidelity (FBTC) และ BlackRock (IBIT) ในขณะเดียวกัน ETF ของอีเธอเรียมก็มีเงินไหลเข้าเฉลี่ยวันละ 200 ล้านดอลลาร์ ทำให้มูลค่าสินทรัพย์สุทธิสะสมแตะ 30.3 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม กิจกรรมบนบล็อกเชนและค่าธรรมเนียมเครือข่ายที่ลดลง อาจส่งผลลบต่อโมเมนตัมของตลาดในระยะสั้น
ด้านเทคนิค บิตคอยน์สามารถปิดช่องว่างของ CME ได้เรียบร้อย โดยระดับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 30 วันถือเป็นแนวรับสำคัญสำหรับการเคลื่อนไหวในอนาคต เอเอ็ม แมเนจเมนต์ เน้นว่า หากไม่สามารถรักษาระดับนี้ได้ ตลาดอาจกลับทิศแบบไม่คาดคิดได้เช่นกัน
โดยสรุป การคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน กำลังเป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์ดิจิทัล ขณะเดียวกัน กระแสเงินไหลเข้า ETF และการเพิ่มความเสี่ยงของนักลงทุนก็ส่งสัญญาณ ‘แนวโน้มขาขึ้น’ ที่ยั่งยืน อย่างไรก็ตาม การชะลอกิจกรรมบนเครือข่าย และการเข้าสู่ระดับต้านทางเทคนิค อาจสร้างความผันผวนระยะสั้นในตลาด นักลงทุนจึงต้องเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงจากทั้งนโยบายการเงิน, ภาวะเศรษฐกิจ และตัวแปรภายในตลาดคริปโตเองอย่างรอบด้าน
ความคิดเห็น 0