วาฬเทขาย 680 ล้านโดชคอยน์(DOGE) ใน 4 วัน ขณะสถาบันเร่งซื้อเพิ่ม ดันโมเมนตัมขาขึ้นกลับมา

การเคลื่อนไหวล่าสุดในตลาดดิจิทัลกำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับนักลงทุน หลังจากมีรายงานว่ากระเป๋าเงินของเหล่าวาฬที่ถือครอง*โดชคอยน์(DOGE)*ในปริมาณมหาศาลระดับ 100 ล้านถึง 1 พันล้าน DOGE ได้ขายเหรียญรวมกว่า 680 ล้าน DOGE ภายใน 4 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณการถือครองของกลุ่มนี้ลดลงจาก 27.4 พันล้าน DOGE เหลือ 26.65 พันล้าน DOGE ท่ามกลางกระแสการปรับฐานราคาซึ่งลดลงจากระดับ 0.3 ดอลลาร์ มาที่ 0.27 ดอลลาร์ หรือประมาณ 375 บาท โดยนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่าเป็นการขายทำกำไรระยะสั้น

บรรยากาศตลาดขณะนี้เต็มไปด้วยความคาดเดาว่าแรงขายของวาฬจะจุดประกายเทรนด์ขาลงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ทางเทคนิคก็มีมุมมองเชิงบวก โดยนักเทรดรายหนึ่งชื่อ ทาดิกราเด ทำนายว่าดัชนี RSI ของโดชคอยน์กำลังเข้าใกล้ *ระดับแนวรับ* ที่เคยหนุนราคาให้พุ่งขึ้นในช่วงต้นเดือนกันยายน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของแรงขายที่อ่อนลง ขณะที่นักวิเคราะห์เทคนิคอีกคนระบุว่าโครงสร้างตลาดในปัจจุบันมีความคล้ายคลึงกับช่วงก่อนเกิดรอบขาขึ้นในอดีต ทำให้มีโอกาสที่ราคาอาจพลิกตัวขึ้นได้อีกครั้ง

ท่ามกลางความสับสนของฝั่งนักลงทุนรายใหญ่ การเคลื่อนไหวของนักลงทุนสถาบันก็เริ่มเป็นที่สนใจ โดยบริษัท คลีนคอร์ โซลูชัน(CleanCore Solutions) ได้เข้าซื้อโดชคอยน์เพิ่มอีก 100 ล้าน DOGE ทำให้ยอดถือครองรวมพุ่งแตะ 600 ล้าน DOGE หรือราว 8,340 ล้านบาท บริษัทระบุว่าเป้าหมายระยะสั้นคือถือครองให้ครบ 1 พันล้าน DOGE และตั้งใจสะสมมากถึง 5% ของเหรียญทั้งหมดที่มีอยู่ในตลาดในระยะยาว ความเคลื่อนไหวดังกล่าวแสดงถึง *แรงซื้อเชิงสถาบัน* ที่อาจสร้างผลบวกต่อราคาของเหรียญในอนาคต

แม้ในขณะนี้*โดชคอยน์(DOGE)*จะอยู่ในภาวะปรับฐานระยะสั้น แต่ด้วยสัญญาณทางเทคนิคที่แข็งแรง เสริมด้วยการซื้อจากสถาบัน และแรงสนับสนุนเชิงจิตวิทยา ทำให้หลายฝ่ายยังเชื่อว่าทิศทางราคายังมี *โมเมนตัมขาขึ้น* ที่อาจปะทุขึ้นอีกครั้ง โดย *ความคิดเห็น* ของผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การจับตาพฤติกรรมกลุ่มนักลงทุนระยะยาว หรือฐานความต้องการที่มั่นคง มีความสำคัญไม่แพ้ความเคลื่อนไหวของวาฬในระยะสั้น