บริษัทบล็อกเชน ริปเปิล(XRP) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ร่วมกับบริษัทจัดการสินทรัพย์ระดับโลกอย่างแฟรงคลิน เทมเพิลตัน และธนาคารยักษ์ใหญ่ของสิงคโปร์ DBS โดยความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนา *ตลาดเรโป(Repo) ที่ขับเคลื่อนด้วยสเตเบิลคอยน์โดยอิงกับสินทรัพย์ที่ผ่านการโทเคนไลซ์* บนเครือข่ายบล็อกเชน
แฟรงคลิน เทมเพิลตัน ซึ่งบริหารสินทรัพย์รวมมูลค่าราว 2,085 ล้านล้านวอน (ประมาณ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) จะทำการออกโทเคน sgBENJI ไปยังตลาดซื้อขายในสิงคโปร์ พร้อมรองรับการแลกเปลี่ยนแบบทันที (instant swap) กับสเตเบิลคอยน์ RLUSD ของริปเปิล โดยโทเคน sgBENJI เป็นตัวแทนของกองทุนตลาดเงินสหรัฐอเมริการะยะสั้น (MMF) ที่ถูกแปลงสภาพเป็นดิจิทัล โดยมีคุณสมบัติด้านความผันผวนต่ำและสามารถสร้างรายได้ให้แม้ในช่วงตลาดผันผวน ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการ *เปลี่ยนจากคริปโตที่ไร้ผลตอบแทน ไปสู่ผลิตภัณฑ์การเงินที่ให้ผลตอบแทนอย่างมั่นคงแบบเรียลไทม์*
ในลำดับต่อไป โทเคน sgBENJI จะสามารถใช้เป็นหลักประกันเพื่อเข้าถึงสภาพคล่องในรูปแบบเงินสดหรือสเตเบิลคอยน์จาก DBS หรือสถาบันการเงินที่สาม ซึ่งนับเป็นโมเดลที่คล้ายคลึงกับธุรกรรมเรโปในตลาดการเงินแบบดั้งเดิมที่อิงกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จึงเป็นการวางรากฐานสำคัญในการสร้าง *ตลาดตราสารหนี้ดิจิทัลที่สามารถเชื่อมโยงสถาบันการเงินด้วยสภาพคล่องระยะสั้นในโลกคริปโต*
แฟรงคลิน เทมเพิลตันมีแผนที่จะออกโทเคน sgBENJI บนเครือข่าย XRP เลเจอร์(XRPL) ของริปเปิล รวมถึงบนบล็อกเชนเครือข่ายอื่น ๆ โดยริปเปิลย้ำว่า XRPL เป็นเครือข่ายที่เหมาะสมสำหรับ MMF โทเคน เนื่องจากมีความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมจำนวนมากด้วยความเร็วสูง ขณะที่ RLUSD จะถูกใช้เป็นสกุลเงินมาตรฐานในการซื้อขายกับ sgBENJI ซึ่งขณะนี้มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ราว 1,014 ล้านบาท (ประมาณ 7.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ไนเจล คาคู(Nigel Khakoo) จากริปเปิลกล่าวว่า “การซื้อขายเรโปโดยใช้ MMF ที่โทเคนไลซ์ ผ่านกลไกของสเตเบิลคอยน์ อาจกลายเป็น *ตัวเปลี่ยนเกมที่แท้จริง ในการเชื่อมโลกการเงินดั้งเดิมเข้ากับสินทรัพย์ดิจิทัล*”
ความร่วมมือครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น *ก้าวย่างสำคัญของการประยุกต์ใช้จริงในระบบนิเวศ XRP* อีกทั้งยังเน้นย้ำว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนได้เข้ามามีบทบาทเชิงลึกในโครงสร้างของการเงินดั้งเดิม โดยเมื่อสถาบันทั่วโลกใช้ RLUSD และ XRPL มากยิ่งขึ้น ความน่าเชื่อถือและศักยภาพในการขยายระบบก็จะยิ่งเด่นชัดขึ้นตามลำดับ
ความคิดเห็น 0