คริปโตทั่วโลกพุ่งหลังเฟดลดดอกเบี้ย สวนทางมาตรการควบคุมเข้มในยุโรป - ไทยเจอวิกฤตแบงก์ล่ม

หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ประกาศลด *อัตราดอกเบี้ยนโยบาย* ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีทั่วโลกก็ปรับตัวขึ้นอย่างพร้อมเพรียง บิตคอยน์(BTC) นำขบวนการปรับขึ้น โดยนักลงทุนแสดงความเชื่อมั่นกลับมาอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในแต่ละประเทศทั่วโลกยังคงแสดงถึงความหลากหลาย และแตกต่างไปจาก "ตลาดกระทิงแบบเบ็ดเสร็จ" ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นที่ประเทศไทย ซึ่งเผชิญกับ *วิกฤตระบบธนาคารล่มครั้งใหญ่* ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผู้ใช้บริการธนาคารหลายรายไม่สามารถเข้าถึงบัญชีของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง ผลที่ตามมาคือความไม่ไว้วางใจที่เริ่มแผ่ขยายในหมู่ประชาชน

ในฝั่งของฝรั่งเศส ทางการออกมาเตือนถึง *ความเป็นไปได้ที่จะระงับการดำเนินกิจการของบริษัทคริปโตที่ได้รับใบอนุญาตจากประเทศนอกสหภาพยุโรป* ส่งสัญญาณเพิ่มระดับการควบคุม และอาจเป็นมาตรการกีดกันทางการค้าในอนาคต

ตรงกันข้ามกับยุโรป ออสเตรเลียกลับเลือกเดินเกมในทิศทางส่งเสริมอุตสาหกรรมคริปโต โดย *ยกเลิกเงื่อนไขการขอใบอนุญาตสำหรับผู้ให้บริการสเตเบิลคอยน์* ซึ่งสะท้อนถึงนโยบายผ่อนคลาย และตั้งเป้าดันการเติบโตในภาคสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจัง

ปัจจัยสำคัญของสัปดาห์นี้คือ *ทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐฯ* โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เฟดได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลดเหลือ 4.1% จากเดิม 4.3% นับเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024 ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่านี่คือสัญญาณสำคัญของการ ‘เปลี่ยนทิศทางสู่ความผ่อนคลาย’ หลังข่าวประกาศ บิตคอยน์ขานรับด้วยการพุ่งขึ้นทันที

ขณะเดียวกัน ปากีสถานประกาศเปิดรับตลาดคริปโตมากขึ้น โดยมีการปรับนโยบายรองรับ ซึ่งสร้าง *ความผันผวนของราคาในตลาดทั่วโลกตามนโยบายแต่ละประเทศ* ความตึงเครียดด้านกฎระเบียบที่แปรผันในแต่ละภูมิภาค ทำให้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงเป็นพื้นที่ของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ‘Global Express’ ในสัปดาห์นี้รวบรวมจังหวะสำคัญเหล่านี้เพื่อสะท้อนภาพรวมของตลาดโลกคริปโตที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ