Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ไคโกเตือนแรงซื้อบิตคอยน์จากบริษัท DAT ดันราคาคริปโตปี 2025 แต่เสี่ยงโครงสร้างระยะยาว

ไคโกเตือนแรงซื้อบิตคอยน์จากบริษัท DAT ดันราคาคริปโตปี 2025 แต่เสี่ยงโครงสร้างระยะยาว / Tokenpost

บริษัทวิจัย ‘ไคโก รีเสิร์ช’เปิดเผยรายงานล่าสุด เตือนว่าบริษัทกลุ่มดิจิทัลแอสเซทเทรเชอรี (DAT) กำลังกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการพุ่งขึ้นในตลาดคริปโตช่วงปี 2025 ขณะเดียวกันก็แฝงด้วย ‘ความเสี่ยงเชิงโครงสร้าง’ ที่อาจส่งผลต่อความมั่นคงของตลาดในระยะยาว โดยแม้การเข้าซื้อบิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH) และอัลท์คอยน์อย่างต่อเนื่องจะช่วยพยุงราคาทรัพย์สินดิจิทัล แต่แรงผลักดันนั้นมีปัจจัยซับซ้อน เช่น การใช้ภาษี, เลเวอเรจ และการออกหุ้นใหม่ราคาพรีเมียม

ในปี 2025 นี้ บริษัท Strategy, BitMine และ Metaplanet ซึ่งเป็นกลุ่ม DAT รายสำคัญ เดินหน้าซื้อ BTC และ ETH อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ Strategy ที่ใช้เวลาเพียง 9 เดือน ซื้อเพิ่มถึง 190,000 BTC ดันยอดถือครองรวมแตะ 636,505 BTC เทียบเท่ากับการซื้อสุทธิตลอดปี 2024 ซึ่งจากการวิเคราะห์ของไคโก รีเสิร์ช ระบุว่า นี่ไม่ใช่ผลลัพธ์จาก ‘ความต้องการของตลาด’ เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากโครงสร้างทางการเงินที่อิงมูลค่าสุทธิ (NAV) ที่สูงกว่าราคาตลาด

หุ้นของบริษัทรูปแบบ DAT มักจะซื้อขายกันด้วยพรีเมียมสูงกว่ามูลค่าคริปโตที่บริษัทถือครอง โดยบริษัทเหล่านี้อาศัยส่วนต่างราคานี้ในการออกหุ้นใหม่เพื่อระดมทุน และนำเงินไปซื้อ BTC หรือ ETH เพิ่มอีก ซึ่งสร้างวงจรสะท้อนที่หนุนราคาหุ้นและปริมาณคริปโตที่ถือ ยกตัวอย่างเช่น หุ้นของ Strategy พุ่งขึ้นกว่า 5 เท่านับตั้งแต่ปี 2024 ซึ่งสูงกว่าราคา BTC ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 2.5 เท่า อย่างไรก็ตาม ไคโก รีเสิร์ช เปิดเผยว่า ในปี 2025 ผลของพรีเมียมดังกล่าวเริ่มลดลง

ในขณะเดียวกัน BitMine และ SharpLink ก็มีบทบาทในการสะสม ETH อย่างกว้างขวาง ขณะที่บริษัท DAT หน้าใหม่จำนวนมากหันไปสะสมเหรียญอัลท์คอยน์ขนาดเล็กอย่าง HYPE และ ENA ส่งผลให้เกิดความผันผวนสูงขึ้น นั่นหมายความว่าพฤติกรรมของบริษัทเหล่านี้ ไม่ได้เป็นเพียงการลงทุนแบบถือครองระยะยาว แต่ยังมีผลเชิงโครงสร้างต่อราคาตลาดในกลุ่มคริปโตอีกด้วย

เหตุผลหนึ่งที่นักลงทุนเลือกถือหุ้นของบริษัท DAT แทนที่จะถือคริปโตหรือเลือกลงทุนผ่าน ETF ก็คือเรื่อง ‘ประสิทธิภาพด้านภาษี’ ตัวอย่างเช่น ที่ญี่ปุ่น หากถือหุ้นของ Metaplanet ผ่านบัญชีสะสมทรัพย์ NISA จะได้รับการยกเว้นภาษีกำไรจากการลงทุน ในขณะที่กำไรจากคริปโตสามารถถูกเก็บภาษีสูงถึง 50% ซึ่งกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้ทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบันสนใจหุ้น DAT มากขึ้น โดยเฉพาะ Metaplanet ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

แต่ทว่า โครงสร้างแบบนี้ก็แฝงความเสี่ยง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงด้าน ‘กฎระเบียบระดับโลก’ อาจกระทบต่อโมเดลธุรกิจของ DAT ล่าสุด ตลาดหุ้นแนสแด็กของสหรัฐเริ่มคุมเข้มการจดทะเบียนบริษัทที่เน้นการซื้อคริปโตเป็นธุรกิจหลัก โดย Strategy ถูกถอดจากดัชนี S&P 500 ซึ่งสะท้อนมุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้นจากหน่วยงานกำกับดูแล

ในมุมของการบริหารความเสี่ยง ไคโก รีเสิร์ช ระบุว่า BTC กำลังพัฒนาไปสู่สินทรัพย์ที่มีเสถียรมากขึ้น ปี 2025 ราคาลดลงเฉลี่ยเพียง 9% เทียบกับการร่วงเฉลี่ยมากกว่า 70% ในปี 2022 และหลังจาก ETF แบบสปอตเปิดตัวมา ราคาบิตคอยน์ยังไม่เคยปรับลดเกิน 30% ค่า Value-at-Risk ระดับ 95% รายวันก็ลดลงจากเฉลี่ย 6% ในปี 2022 เหลือราว 3% ในปี 2025 ซึ่งบ่งชี้ว่าการลงทุนใน BTC หรือ ETH ผ่านตลาดสปอตหรือ ETF อาจมี ‘โปรไฟล์ความเสี่ยง’ ที่เหมาะสมกว่าหุ้นกลุ่ม DAT ในบางกรณี

โดยสรุป บริษัท DAT กำลังมีบทบาทมหาศาลในการเปลี่ยนโครงสร้างตลาดคริปโต ทั้งในแง่บวกและความเสี่ยง แต่โมเดลการทำกำไรผ่านพรีเมียม, กลยุทธ์ภาษี และการเติบโตจากกระแสเงินทุน อาจกลายเป็น ‘ดาบสองคม’ สำหรับนักลงทุนทั่วไป ไคโก รีเสิร์ช ย้ำว่าการเข้าใจกลไกการลงทุนของ DAT อย่างลึกซึ้ง เป็นสิ่งจำเป็นก่อนตัดสินใจลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1