บิตไวส์จวกเกนส์เลอร์! วิจารณ์แนวทางกำกับคริปโตของ SEC ขัดขวางนวัตกรรม

เท็ดดี ฟูซาโร ประธานของบิตไวส์(Bitwise) ออกโรงวิจารณ์ *แกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler)* อย่างตรงไปตรงมา หลังอดีตประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) พยายามชี้แจงเหตุผลเบื้องหลังแนวทาง ‘กำกับแบบเข้มข้น’ ต่อคริปโตในช่วงดำรงตำแหน่ง โดยให้เหตุผลผ่านการให้สัมภาษณ์กับ CNBC เมื่อไม่นานมานี้ว่า เขามองว่า ‘คริปโตไม่มีมูลค่าที่แท้จริง’ จึงจำเป็นต้องมีกรอบนโยบายที่ควบคุมอย่างรัดกุม ฟูซาโรกลับมองว่า SEC ไม่ควรเป็นหน่วยงานที่ตัดสิน ‘คุณภาพของการลงทุน’

ฟูซาโรกล่าวว่า “หน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนของสหรัฐควรมุ่งเน้นที่การบังคับใช้ *การเปิดเผยข้อมูล (disclosure)* ไม่ใช่การตัดสินว่าสินทรัพย์ใดดีหรือไม่ดี” พร้อมระบุชัดว่า SEC ไม่ใช่ *เมอริต เรกูเลเตอร์ (merit regulator)* ซึ่งเป็นโมเดลที่มีในประเทศบางแห่ง เช่น คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์จีน ขณะเดียวกันเขาเน้นย้ำว่า หน้าที่หลักของ SEC ควรเป็นการทำให้แน่ใจว่านักลงทุนได้รับข้อมูลอย่างเพียงพอ ไม่ใช่การเข้ามาประเมินว่าโปรเจกต์ไหน ‘มีอนาคต’

การดำเนินงานของเกนส์เลอร์ในช่วงเป็นประธาน SEC สร้างกระแสวิพากษ์อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการดำเนินคดีต่อบริษัทคริปโตชั้นนำหลายราย กรณีนี้ ฟูซาโรชี้ว่าเกนส์เลอร์ทำเหมือน ‘ตัดสิน’ ว่าเหรียญบางตัวมีคุณค่า ขณะที่บางตัวไม่มี ซึ่ง *ความคิดเห็น* ของเขาคือ การกระทำเช่นนั้นได้ขัดขวาง *นวัตกรรมในอุตสาหกรรมคริปโต* อย่างรุนแรง พร้อมระบุว่า หน่วยงานกำกับไม่มีอำนาจในการตัดสิน ‘ความน่าลงทุน’ ของสินทรัพย์ และการแทรกแซงมากเกินไปควรถูกตั้งคำถามว่า *ยับยั้งการเติบโตของตลาดมากกว่าการปกป้องนักลงทุนหรือไม่*

ในอีกด้านหนึ่ง พอล แอตกินส์(Paul Atkins) ประธาน SEC คนใหม่ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งไม่นาน ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่า “นี่คือยุคของคริปโต” ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมโต๊ะกลมตลาดการเงินระดับโลกขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เริ่มเห็นผลเมื่อศาล *ยกฟ้อง* คดีสำคัญที่ SEC ฟ้องดำเนินคดีกับบริษัทคริปโตชั้นนำอย่าง *ริปเปิล(XRP)*, *คอยน์เบส(Coinbase)* และ *ไบแนนซ์(Binance)* ซึ่งถูกตีความว่าเป็นการเปลี่ยนทิศทางของ SEC ไปสู่แนวทาง ‘สนับสนุนคริปโต’ มากยิ่งขึ้น

การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า SEC กำลังกลับไปยังบทบาทดั้งเดิม ที่ไม่ใช่การตัดสินแทนนักลงทุน แต่เป็นการกำกับให้โปร่งใสและเป็นธรรม ขณะที่ตลาดคริปโตเริ่มสัมผัสได้ถึงโอกาสในการกลับมาเติบโตอีกครั้ง คำวิจารณ์ของฟูซาโรต่อ *ระบอบเกนส์เลอร์* ยังสร้างแรงสะเทือนภายในสหรัฐ และอาจมีอิทธิพลต่อแนวทางการกำกับสินทรัพย์ดิจิทัลในระยะยาว