สถานการณ์ *ชัตดาวน์* ของรัฐบาลสหรัฐส่งผลให้กระบวนการอนุมัติ *กองทุน ETF คริปโต* ต้องหยุดชะงักอย่างสิ้นเชิง โดยผู้เชี่ยวชาญจากแวดวง ETF ออกมาเตือนถึงความเป็นไปได้ที่กระบวนการจะล่าช้าออกไปโดยไม่มีกำหนด เอริก บัลชูนัส(Eric Balchunas) นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Bloomberg Intelligence ให้ความเห็นว่า “ทุกอย่างเหมือนถูกแช่แข็ง” และชี้ว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) กำลังหยุดเคลื่อนไหวไปโดยสิ้นเชิง
เมื่อวันที่ 2 บัลชูนัสกล่าวผ่าน X (ชื่อเดิม ทวิตเตอร์) ว่า “สถานการณ์นี้เหมือนการแข่งขันที่ต้องหยุดลงกลางสายฝน” พร้อมเสริมว่า “ช่วงเวลาก็ไม่ดี นักวิเคราะห์เองก็ไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้” เขามองว่า ความคาดหวังจากตลาดที่ว่า ETF จะเป็นตัวดึงเงินทุนจากนักลงทุนรายใหญ่เข้าสู่ตลาดคริปโต กลับต้องเจอกับ *ช่องว่างที่ไม่คาดคิด* สร้างความไม่แน่นอนให้แก่ทั้งผู้ให้บริการและนักลงทุน
ตามรายงานภาคต้นเดือนนี้ SEC ได้มีคำแนะนำแบบไม่เป็นทางการให้บริษัทที่ส่งคำขอ ETF แบบ *อ้างอิงราคาเหรียญทางเลือก (Altcoin)* ถอนคำขอออกไปทั้งหมด เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงล่าสุดใน *เกณฑ์การอนุมัติทั่วไปสำหรับการจดทะเบียนหลักทรัพย์* ทำให้เอกสารชุดเดิมขาดคุณสมบัติตามข้อกำหนดใหม่อย่างสิ้นเชิง ส่งผลให้เส้นตายการอนุมัติที่เคยกำหนดไว้ก่อนหน้านี้กลายเป็นโมฆะ
ก่อนเกิดเหตุการณ์นี้ ตลาดเคยตั้งความหวังว่าเดือนตุลาคมจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ซึ่งกองทุน ETF หลายตัวจะได้รับไฟเขียวและเปิดตัวได้ ทว่าการชัตดาวน์ที่ยืดเยื้อ ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ SEC ยังไม่สามารถตอบข้อซักถามจากสื่อใด ๆ ได้เลย ทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรอบเวลาการอนุมัติในอนาคตถูกตัดขาดโดยสมบูรณ์
ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการที่ *ทรัมป์* และสมาชิกรัฐสภายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องงบประมาณ ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับตลาดและนักลงทุนที่กำลังรอจังหวะลงทุนใน ETF คริปโต โดยเฉพาะสินทรัพย์ที่อยู่นอกเหนือจาก *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* อย่าง *อาวาแลนเช(AVAX)*, *โซลานา(SOL)* และ *โพลิกอน(MATIC)* ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเผชิญกับความล่าช้าครั้งใหญ่ในการได้รับอนุมัติ ETF ใหม่
*ความคิดเห็น*: หากการเปิดตัว ETF ต้องล่าช้าออกไปจริง ๆ อาจไม่เพียงแต่ทำให้สถาบันทางการเงินชะลอการเข้ามาลงทุนในตลาดคริปโตเท่านั้น แต่ยังอาจสั่นคลอนความเชื่อมั่นต่อทั้งระบบอีกด้วย แม้เสียงเรียกร้องให้ SEC กำหนดแนวทางที่ชัดเจนขึ้นจะมีมานาน แต่เมื่อตัวองค์กรเองยังถูกกระทบจากปัจจัยการเมือง ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่นักลงทุนจะไม่รู้สึกกังวล
ความคิดเห็น 0