บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงหนักในไตรมาส 4 ปี 2025 หลังจากสร้างภาพหลอกลวง ‘เฟกเอาท์’ ครั้งใหญ่ที่สุดของปี ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงอย่างรวดเร็ว แม้ก่อนหน้านี้จะมีความหวังถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น แต่การไม่สามารถทะลวงแนวต้านสำคัญได้ ทำให้เกิดแรงขายต่อเนื่อง และทิศทางในอนาคตกลับไม่ชัดเจน
ก่อนหน้านี้ บิตคอยน์พยายามฟื้นตัว โดยพุ่งผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (EMA) และมีแนวโน้มจะกลับขึ้นไปทดสอบระดับ 125,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.73 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ราคาไปเผชิญแรงขายบริเวณ 116,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.61 ล้านบาท) ซึ่งใกล้เคียงกับแนวต้านแข็งแกร่งระหว่าง 115,500-116,000 ดอลลาร์ ที่เริ่มก่อตัวตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม ทำให้แรงบวกถูกลดทอนอย่างรวดเร็ว
ขณะนี้ ราคาบิตคอยน์ลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 วันอีกครั้ง โดยนักวิเคราะห์มองว่าอาจถอยลงไปทดสอบแนวรับที่ 108,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.5 ล้านบาท) ซึ่งเป็นตำแหน่งของเส้นค่าเฉลี่ย EMA 200 วัน ถ้าไม่สามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ อาจเกิดสถานการณ์ ‘การบีบตัวของความผันผวน’ ระหว่าง EMA 100 วันและ EMA 200 วัน ทำให้ราคาขยับอยู่ในกรอบแคบและทิศทางไม่ชัดเจน
ตัวชี้วัดทางเทคนิคหลายตัวก็บ่งชี้ความเปราะบางของตลาดเช่นกัน ดัชนี RSI ซึ่งเป็นตัวชี้วัดโมเมนตัม เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 42 บ่งชี้ว่าความต้องการซื้ออ่อนแรงลงอย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน ปริมาณการซื้อขายที่ลดลงต่อเนื่องยังสะท้อนว่าบรรดานักลงทุนเริ่มรอจังหวะและระมัดระวังมากขึ้น
จุดที่น่ากังวลที่สุดอาจเป็นระดับแนวรับระหว่าง 100,000 ถึง 108,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.39–1.5 ล้านบาท) ซึ่งหากถูกเจาะลงมา อาจก่อให้เกิด *แรงเทขายจากการแตกตื่นทางจิตวิทยา* และส่งผลให้เกิดการล้างพอร์ตในระดับกว้าง พร้อมเร่งการร่วงของราคาให้ลึกยิ่งขึ้น
*ความคิดเห็น* แม้ตลาดดูเป็นลบอย่างชัดเจน แต่ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนยังเชื่อว่าบิตคอยน์อาจฟื้นตัวได้ ถ้าสามารถกลับมายืนเหนือ EMA 50 วัน พร้อมกับมีแรงซื้อเข้ามาสนับสนุน ในกรณีนั้น อาจได้เห็นการรีบาวด์กลับสู่ระดับเหนือ 120,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.66 ล้านบาท) ได้อีกครั้ง อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายยังเตือนว่าเหตุการณ์ล่าสุดอาจไม่ใช่เพียงการปรับฐานชั่วคราว แต่สะท้อนถึง ‘ความไม่มั่นคงเชิงโครงสร้าง’ ของตลาดโดยรวม
ราคาบิตคอยน์ครั้งนี้จึงเป็นบทเรียนว่า แม้ในช่วงขาขึ้น ตลาดคริปโตก็สามารถกลับทิศได้อย่างฉับพลัน นักลงทุนจึงควรติดตามความเคลื่อนไหวของตัวชี้วัดทางเทคนิคและแนวรับสำคัญอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0