อีเธอเรียม(ETH) ร่วงต่ำกว่า 2,400 ดอลลาร์ สะท้อนความไม่แน่นอนของตลาดเดือนกุมภาพันธ์
เมื่อวันที่ 25 (เวลาท้องถิ่น) ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีพบว่า อีเธอเรียม(ETH) ร่วงลงแตะระดับ 2,310 ดอลลาร์ก่อนฟื้นตัวเล็กน้อย และกลับมาเคลื่อนที่ใกล้ 2,400 ดอลลาร์อีกครั้ง ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ราคา ETH ลดลงจาก 3,217 ดอลลาร์ไปกว่า 800 ดอลลาร์ คิดเป็นการร่วงลงเกือบ 25%
ปัจจัยหลักที่กดดันราคาประกอบด้วยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในระดับโลก และเหตุการณ์แฮ็กไบบิต(Bybit) ล่าสุด นักวิเคราะห์ชี้ว่า นโยบายกำแพงภาษีใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์เพิ่มแรงกดดันต่อตลาดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง นอกจากนี้ เหตุการณ์แฮ็กในไบบิต ซึ่งทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่ากว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.16 ล้านล้านวอน) ถูกขโมย ยิ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อตลาด
ทางไบบิตได้เสริมสภาพคล่องให้กับกระดานเทรดด้วยการเติม 446,870 ETH หลังเหตุการณ์ดังกล่าว โดย เบน โจว ซีอีโอของบริษัทกล่าวว่า “เราได้ชดเชยความสูญเสียทั้งหมดจากแฮ็ก และอยู่ระหว่างเตรียมรายงานหลักฐานสำรอง (Proof-of-Reserves) ที่ผ่านการตรวจสอบ” อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของราคา ETH ยังคงล่าช้า
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ETH สูญเสียมูลค่าอีก 7.3% ไม่สามารถรักษาระดับแนวรับที่ 2,400 ดอลลาร์ไว้ได้ และราคาลดลงสูงสุดถึง 14% ภายใน 24 ชั่วโมง ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า หาก ETH ร่วงลงต่ำกว่า 2,250 ดอลลาร์ อาจมีโอกาสเกิดแรงขายเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน บิตคอยน์(BTC) ก็ประสบภาวะอ่อนตัว โดยราคาลดลงต่ำกว่า 90,000 ดอลลาร์ชั่วคราว ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นนี้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดคริปโตโดยรวม
นักวิเคราะห์มองว่า ตัวแปรสำคัญของการฟื้นตัวในตลาดอยู่ที่ข้อมูลทางเศรษฐกิจมหภาค และความพยายามเสริมความปลอดภัยของแพลตฟอร์มซื้อขาย หาก ETH ไม่สามารถยืนเหนือระดับ 2,400 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง ความกดดันจากแรงขายอาจยังคงดำเนินต่อไป
ความคิดเห็น 0