Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC)–ทองคำโทเคนไนซ์ ก้าวสู่สินทรัพย์ปลอดภัยยุคใหม่ ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกผันผวน

บิตคอยน์(BTC)–ทองคำโทเคนไนซ์ ก้าวสู่สินทรัพย์ปลอดภัยยุคใหม่ ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกผันผวน / Tokenpost

แม็กซีเวนเจอร์ส(MEXC Ventures) บริษัทลงทุนด้านคริปโตระดับโลก เผยรายงานล่าสุดชี้ว่าความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจมหภาคและความเชื่อมั่นที่ลดลงต่อระบบการเงินแบบดั้งเดิม กำลังสร้างแรงกระเพื่อมใหม่ให้กับทั้งสินทรัพย์ปลอดภัยแบบเก่าและสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะแนวคิดใหม่อย่าง ‘สินทรัพย์ปลอดภัยดิจิทัล’ ที่เริ่มเป็นที่จับตามองมากขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ตลาดปัจจุบัน

เมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2025 ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ *4,147 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์* เพิ่มขึ้นกว่า 54.5% จากต้นปี ความตื่นกลัวต่อภาวะเงินเฟ้อและการลดลงของความเชื่อมั่นในสกุลเงินรัฐบาลทำให้ทองคำกลับมาเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนนิยมถือครอง อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวของแรงซื้อขายทองคำจริงและภาวะสภาพคล่องต่ำ ทำให้เงินทุนเริ่มไหลบ่ายไปสู่ *ทองคำที่ถูกโทเคนไนซ์* และ *บิตคอยน์(BTC)* อย่างชัดเจน

แม็กซีเวนเจอร์สระบุว่า ราคาทองคำที่พุ่งสูงเกิดจากสามปัจจัยหลัก ได้แก่ การลดลงของกำลังซื้อจากภาวะเงินเฟ้อ การเร่งซื้อทองของธนาคารกลางทั่วโลก และการกระตุ้นด้านจิตวิทยาจากการฝ่าแนวต้านราคาทางเทคนิค โดยเฉพาะในกรณีของธนาคารกลาง การซื้อทองคำครั้งนี้ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันค่าเงินเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์เชิงโครงสร้างในระบบการเงินโลก

หลังจากทองคำทะลุระดับ 3,000 ดอลลาร์ การไหลเข้าของเงินจากนักลงทุนเชิงเทคนิคและกองทุน ETF ก็เร่งตัวขึ้น จนราคาทะลุ 4,000 ดอลลาร์ในเวลารวดเร็ว อย่างไรก็ตาม แรงขายทำกำไรเริ่มเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กระแสเงินทุนเริ่มหันเหไปยัง *โทเคนทองคำ* ที่มีคุณสมบัติการซื้อขายที่คล่องตัวมากกว่า โทเคนทองคำเหล่านี้ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อจำลองความเป็นเจ้าของทองคำจริง ซึ่งช่วยให้ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ เช่น ความบริสุทธิ์หรือที่เก็บรักษาได้แบบเรียลไทม์

ตัวอย่างโทเคนทองคำที่ได้รับความนิยม ได้แก่ TetherGold(XAUT) และ PAXGold(PAXG) ซึ่งสะท้อนความเป็นเจ้าของทองคำจริงที่ผ่านการรับรองจากสมาคมตลาดทองคำลอนดอน(LBMA) ในสัดส่วน 1 ออนซ์ต่อ 1 โทเคน จุดแข็งของโทเคนเหล่านี้คือ มีค่าใช้จ่ายต่ำ ซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง และเข้าถึงได้ง่ายกว่าทองคำจริง ทำให้เริ่มถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์กระแสหลักในหมู่ผู้ลงทุน

ทางด้าน *บิตคอยน์* รายงานชี้ว่า บทบาทของเหรียญคริปโตนี้กำลังเปลี่ยนจาก “สินทรัพย์เก็งกำไร” ไปสู่ *สินทรัพย์ปลอดภัยดิจิทัล* อย่างเต็มตัว ปัจจัยที่หนุนการเปลี่ยนแปลงนี้ ได้แก่ การเปิดให้สถาบันเข้าลงทุนมากขึ้น การอนุมัติ ETF ที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์ ความสามารถในการจำกัดจำนวนเหรียญ รวมถึงความสามารถในการเขียนโปรแกรมเพื่อเพิ่มฟังก์ชันต่างๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้บิตคอยน์สามารถทำหน้าที่คล้ายทองคำ โดยเฉพาะในช่วงที่นักลงทุนต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวกำลังเปลี่ยนรูปแบบของพอร์ตการลงทุนสำหรับ ‘สินทรัพย์ปลอดภัย’ ที่เคยพึ่งพาทองคำเพียงอย่างเดียว สู่โฉมใหม่ที่รวมทั้ง *ทองคำจริง ทองคำโทเคนไนซ์ และบิตคอยน์* เข้าไว้ด้วยกัน *ความคิดเห็น*: แนวโน้มนี้ไม่เพียงแต่ทลายเส้นแบ่งระหว่างสินทรัพย์ดั้งเดิมกับสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ยังเปิดประตูสู่การนำสินทรัพย์จริงอื่นๆ ไปโทเคนไนซ์ในอนาคตอีกด้วย

รายงานสรุปว่า การโยกย้ายพอร์ตจากทองคำแบบดั้งเดิมสู่สินทรัพย์ดิจิทัลไม่ใช่เพียงกระแสชั่วคราว แต่เป็น *จุดเปลี่ยนเชิงโครงสร้าง* ที่สะท้อนการยอมรับของตลาดต่อคริปโตในฐานะสินทรัพย์เพื่อป้องกันความเสี่ยงระดับมหภาค การถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างปลอดภัยบนบล็อกเชนจึงเป็นขั้นตอนต่อไปที่นักลงทุนไม่อาจมองข้าม

ในที่สุด รายงานย้ำว่า แนวคิดเรื่อง “การลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย” กำลังเข้าสู่ยุคใหม่ที่ยึดโยงกับโครงสร้างแบบกระจายศูนย์ของระบบดิจิทัล และ “ทองคำโทเคนไนซ์” กับบิตคอยน์คือหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ นักลงทุนควรเริ่มพิจารณาปรับกลยุทธ์การลงทุน โดยเปิดรับ *พอร์ตสินทรัพย์ดิจิทัลที่ตรวจสอบได้และมีความโปร่งใส* เพื่อรับมือกับยุคใหม่ของเศรษฐกิจโลก

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1