ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
กองทุน ETF สำหรับริปเปิล(XRP) ที่มีการยื่นขอจดทะเบียนใหม่ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ(SEC) กำลังสร้างกระแสกังวลในอุตสาหกรรมคริปโต เหตุเพราะกองทุนนี้ถูกออกแบบให้มี ‘เลเวอเรจ’ สูงสุดถึง 5 เท่า ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะ *เก็งกำไรและมีความเสี่ยงสูง* ทำให้หลายฝ่ายมองว่าการยื่นเสนอ ETF ในจังหวะนี้ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะหลังจากที่ตลาดคริปโตเพิ่งผ่านเหตุการณ์ *ชอร์ตสกวอชและการล้างพอร์ตครั้งใหญ่* จากการใช้เลเวอเรจเกินตัว
ตามรายงาน เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) กองทุน ETF ดังกล่าวถูกยื่นโดยบริษัทจัดการสินทรัพย์ชื่อ วอลาติลิตี้ แชร์ส(Volatility Shares) ซึ่งยื่นขอกองทุน ETF ใช้เลเวอเรจ 5 เท่าสำหรับบิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH), โซลานา(SOL) รวมถึง *ริปเปิล(XRP)* โดยเฉพาะในส่วนของ XRP นั้น ได้รับความสนใจเนื่องจากเลเวอเรจที่สูงอาจเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนแสวงหาผลตอบแทนสูงจากสินทรัพย์ที่มีความผันผวนอย่างอัลท์คอยน์
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโตหลายคนแสดงความกังวลต่อแนวคิดนี้ โดย สก็อตต์ เมลเคอร์(Scott Melker) นักเทรดชื่อดังผู้ใช้ชื่อในยูทูบว่า ‘The Wolf Of All Streets’ แสดงความเห็นว่า “แนวคิดในการเปิดทางให้ผู้ลงทุนรายย่อยใช้เลเวอเรจกับอัลท์คอยน์นั้น *โง่มาก*” เขาระบุว่าความเสี่ยงไม่ได้อยู่ที่สินทรัพย์เพียงอย่างเดียว แต่โครงสร้างของเลเวอเรจเองอาจนำไปสู่การขาดทุนที่ไม่จำเป็นสำหรับนักลงทุน
นอกจากนี้ ความเสี่ยงจากการใช้เลเวอเรจมากเกินจริงไม่ใช่เพียงแค่ในทางทฤษฎี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดคริปโตเสียหายอย่างหนักจากการล้างพอร์ตของนักเทรดที่ใช้เลเวอเรจสูง ส่งผลให้มูลค่ารวมของตลาดหายไปถึง 1.9 พันล้านดอลลาร์ (ราว 66,000 ล้านบาท) ภายในวันเดียว และมีนักเทรดกว่า 1.6 ล้านรายได้รับผลกระทบ โดยเหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้เป็นหนึ่งใน *วิกฤตการล้างพอร์ตที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์คริปโต*
ในบริบทเช่นนี้ การเสนอ ETF ที่อิงกับเลเวอเรจมากถึง 5 เท่าจึงถูกมองว่า *ไร้ความรับผิดชอบ* และมีแนวโน้มจะทำให้สถานการณ์ตลาดซ้ำรอยอีกครั้ง โดยเมลเคอร์กล่าวถึง XRP โดยเฉพาะว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่สินทรัพย์ตัวใดตัวหนึ่ง แต่ต่อตัวโครงสร้างผลิตภัณฑ์ที่อาจกระตุ้น ‘พฤติกรรมเก็งกำไรเกินตัว’ ของนักลงทุนจนยากจะควบคุม
ขณะนี้ SEC ยัง *ไม่ได้อนุมัติหรือปฏิเสธ* การยื่นขอ ETF ดังกล่าว และก่อนหน้านี้กองทุนที่ใช้เลเวอเรจ 3 เท่าเกือบทั้งหมดก็ไม่ผ่านการอนุมัติ จึงทำให้โอกาสที่ ETF แบบ 5 เท่านี้จะรับการอนุมัติถือว่ายัง ‘ไม่แน่นอน’
สำหรับความเคลื่อนไหวครั้งนี้ นอกจากจะสะท้อนความเสี่ยงจาก *XRP ETF* แล้ว ยังนำไปสู่การตั้งคำถามต่อ *ภาพรวมตลาดคริปโตในสหรัฐฯ* โดยเฉพาะเรื่องการจัดการเลเวอเรจอย่างถูกต้อง ยิ่งเมื่อสถานการณ์ตลาดทั่วโลกสั่นคลอนจากการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมากล่าวถึงความตึงเครียดทางการค้ากับจีน ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ท่าทีของ SEC ในการพิจารณา ETF ดังกล่าวอาจ *เข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิม*
ความคิดเห็น 0