อีเธอเรียม(ETH) สามารถฟื้นตัวกลับมายืนเหนือระดับราคา *4,000 ดอลลาร์* (ราว 5.56 ล้านบาท) ได้อีกครั้ง หลังร่วงลงไปที่ *3,400 ดอลลาร์* (ราว 4.72 ล้านบาท) ในช่วงขาลงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ภาพรวมทางเทคนิคยังคงไม่แข็งแกร่งพอจะยืนยันว่าเป็นการกลับเข้าสู่ตลาดกระทิง โดยนักวิเคราะห์มองว่า การขึ้นครั้งนี้อาจเป็นเพียง *จุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวเชิงโครงสร้าง* เท่านั้น
ในกราฟรายวัน อีเธอเรียมดีดตัวขึ้นจากกรอบความต้องการที่ 3,400-3,500 ดอลลาร์ (ราว 4.72-4.86 ล้านบาท) ทะลุแนวต้านเส้นเทรนด์ขาลงและเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันขึ้นมาได้ ขณะที่ดัชนี RSI แสดงสัญญาณ *บ่งชี้ถึงการอ่อนแรงของแรงขาย* ผ่านแนวโน้ม bullish divergence ซึ่งช่วยหนุนการยืนเหนือแนวรับใหม่ อย่างไรก็ตาม ในเชิงเทคนิค ราคายังไม่สามารถเบรกผ่านระดับ *4,300 ดอลลาร์* (ราว 5.97 ล้านบาท) ได้อย่างมั่นคง ทำให้ยังไม่สามารถยืนยันการเปลี่ยนแนวโน้มเป็นตลาดกระทิงได้ชัดเจน หากระดับ 4,000 ดอลลาร์หลุดลงมาอีกครั้งก็มีโอกาสสูงที่ราคาจะกลับไปทดสอบระดับ *3,400 ดอลลาร์* อีกครั้ง
ในกราฟ 4 ชั่วโมง ราคากำลังสร้างรูปแบบ *ลิ่มขาขึ้น* (rising wedge) โดยฟื้นตัวแบบ V-shape จากการร่วงในรอบก่อนหน้า และแตะระดับฟีโบนักชี 0.618 ที่ *4,250 ดอลลาร์* (ราว 5.91 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นแนวต้านสำคัญที่มีผลต่อทิศทางระยะสั้น เนื่องจากเป็นโซนเดียวกับแนวต้านเดิมในช่วง *4,200–4,300 ดอลลาร์* หากอีเธอเรียมสามารถทะลุผ่านโซนนี้ได้ อาจเปิดทางให้ราคาวิ่งขึ้นต่อไปที่ช่วง *4,450–4,700 ดอลลาร์* (ราว 6.19–6.53 ล้านบาท) แต่หากไม่สามารถยืนได้ มีโอกาสเกิดแรงขายและถอยลงไปทดสอบระดับ *ต่ำกว่า 3,800 ดอลลาร์* (ราว 5.28 ล้านบาท)
ด้านข้อมูล *ออนเชน* ยังสะท้อนสัญญาณเชิงบวกที่สนับสนุนแรงฟื้นตัวในรอบนี้ โดยอัตราการถือครอง ETH ในบัญชีของ *ไบแนนซ์* ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุด ลดลงมาเหลือเพียง 0.33% ซึ่งใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดนับจากเดือนพฤษภาคม เป็นสัญญาณว่านักลงทุนกำลังถอน ETH ออกจากกระดานเทรดเพื่อนำไปเก็บรักษาเอง ซึ่งหมายถึง *อุปทานสำหรับการขายลดลง* และเพิ่มโอกาสให้ *แรงซื้อมากขึ้นส่งผลต่อราคาได้ชัดเจนขึ้น*
ความคิดเห็น: กระแสการถอนเหรียญออกจากตลาดแบบนี้ บ่งชี้ถึง *ความมั่นใจของนักลงทุน* ว่าราคามีโอกาสขยับขึ้นต่อ มากกว่าจะเทขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น หากอีเธอเรียมสามารถเบรกผ่านระดับ *4,300 ดอลลาร์* ได้ พร้อมยืนอย่างมั่นคง โอกาสที่ราคาจะเข้าสู่ระยะ *ขาขึ้นระดับกลาง* พร้อมแนวโน้มบวกจากการลดลงของสภาพคล่องในตลาด ก็เป็นไปได้มากขึ้น
ความคิดเห็น 0