บิตคอยน์(BTC) และสกุลเงินดิจิทัลหลักอื่น ๆ ร่วงลงอย่างรุนแรง สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วตลาดคริปโต โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มูลค่าการชำระบัญชีรวมทะลุ 1.1 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 40,000 ล้านบาท) นักลงทุนกว่า 290,000 บัญชีเผชิญกับการขาดทุนครั้งใหญ่ ตามข้อมูลจาก CoinGlass การร่วงอย่างรวดเร็วนี้เป็นผลมาจากการชำระบัญชีเลเวอเรจที่มากเกินไปและภาวะจิตวิทยาการซื้อที่อ่อนแรงลง
ก่อนหน้านี้ บิตคอยน์(BTC) เคยพยายามฟื้นตัวขึ้นไปแตะระดับ 116,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.1 ล้านบาท) แต่กลับถูกขายออกอย่างหนัก จนราคาพังทะลุแนวรับสำคัญที่ 110,000 ดอลลาร์ ล่าสุดขณะรายงาน ราคาอยู่ที่ใกล้ 105,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.7 ล้านบาท) นักวิเคราะห์บางรายเริ่มเตือนว่าแนวรับถัดไปอาจอยู่ที่ 100,000 ดอลลาร์พอดี
นักวิเคราะห์สายคริปโตนามว่า Captain Faibik แสดงความเห็นว่า “ตลาดขาขึ้นระหว่างปี 2024-2025 ได้สิ้นสุดลงแล้ว” พร้อมคาดการณ์ว่าอาจเกิดการปรับฐานสูงสุดถึง *50%* ในระยะกลางถึงยาว ความเห็นนี้สอดคล้องกับตลาดอัลท์คอยน์ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงยิ่งกว่า เช่น ไบแนนซ์คอยน์(BNB) ที่ร่วงลงกว่า 12% ภายในวันเดียว สู่ระดับต่ำกว่า 1,050 ดอลลาร์ อีเธอเรียม(ETH) และ ริปเปิล(XRP) ก็ลดลงเกิน 6% และ 7% ตามลำดับ
ปัจจัยเบื้องหลังความผันผวนของตลาดครั้งนี้ มีทั้งตัวเลขเศรษฐกิจมหภาคล่าสุด ความไม่แน่นอนด้านกำกับดูแล และสภาพคล่องในตลาดที่ต่ำ ซึ่งทำให้เกิดความผันผวนมากยิ่งขึ้น วินนี่ ซี(Wenny C) ประธานฝ่ายปฏิบัติการของแพลตฟอร์มอนุพันธ์คริปโต SynFutures ให้ความเห็นว่า การร่วงครั้งนี้สะท้อนถึง “ความต้องการด้านการเก็งกำไรที่ลดลง” และ “ความไม่แน่นอนจากกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวกับเหรียญขนาดเล็ก” พร้อมระบุว่า “นักลงทุนเริ่มเปลี่ยนพอร์ตมาสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง *บิตคอยน์* และ *สเตเบิลคอยน์* มากขึ้น”
กระแสความวิตกเพิ่มสูงขึ้นหลังจากการประชุมระหว่างทรัมป์และประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งมีผลให้เกิดการชำระบัญชีถึง 600 ล้านดอลลาร์เมื่อวันก่อน และเมื่อรวมกับการร่วงหนักในครั้งนี้ ยิ่งกดดันจิตวิทยาการลงทุนให้ต่ําไปอีกขั้น นักลงทุนในตลาดกำลังจับตามองแนวโน้มการร่วงลงเพิ่มเติมมากกว่าการฟื้นตัวในระยะสั้น ความระมัดระวังเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายให้ความสำคัญในเวลานี้
ความคิดเห็น 0