Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

นักวิเคราะห์จุดประเด็น XR​P ยังมีประโยชน์จริงหรือ? จุดชนวนถกเถียงทั่วคริปโต

นักวิเคราะห์จุดประเด็น XR​P ยังมีประโยชน์จริงหรือ? จุดชนวนถกเถียงทั่วคริปโต / Tokenpost

นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดังจุดชนวนถกเถียงประเด็นประโยชน์ที่แท้จริงของริปเปิล(XRP) หลังตั้งคำถามบนแพลตฟอร์ม X (เดิมคือ Twitter) ว่า “XRP มีประโยชน์ที่แท้จริงอะไรบ้างในตอนนี้?” คำถามจากสก็อตต์ เมลเคอร์ ที่รู้จักกันในชื่อ ‘The Wolf of All Streets’ กลายเป็นการจุดประกายให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างดุเดือดจากหลายฝ่ายในชุมชนคริปโต โดยเมลเคอร์ยังแยกแยะชัดเจนระหว่างบริษัทริปเปิล(Ripple) และโทเคน XRP

คำถามดังกล่าวมีผู้ตอบกลับหลายร้อยราย โดยกลายเป็นประเด็นถกเถียงเรื่องช่องว่างระหว่าง ‘ความเป็นไปได้ทางเทคนิค’ กับ ‘การใช้งานจริง’ เมลเคอร์ได้ชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบันบริษัทชำระเงินระดับโลกอย่าง SWIFT และ เวสเทิร์นยูเนียน หันไปใช้โซลูชันจากบล็อกเชนอื่น ๆ แทน พร้อมความคิดเห็นว่า “ตอนนี้ตลาดการชำระเงินกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยสเตเบิลคอยน์” จากนั้นจึงตั้งคำถามต่อว่า XRP ยังมีประโยชน์อยู่หรือไม่

การตอบสนองจากผู้สนับสนุน XRP มีทั้งเสียงตำหนิและการโต้แย้ง บางคนกล่าวว่าความเข้าใจของเมลเคอร์เกี่ยวกับ XRP นั้นผิดพลาด ขณะที่บางฝ่ายบอกว่าเขาไม่ได้ศึกษาให้ลึกซึ้งพอ หนึ่งในผู้สนับสนุนที่ชื่อว่า ‘มิกเคิล(Mickle)’ พยายามอธิบายประโยชน์ของ XRP โดยอ้างว่า XRP สามารถทำหน้าที่เป็น ‘สินทรัพย์ตัวกลางแบบไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด’ ที่ใช้ในการเชื่อมโยงระหว่างเงินดิจิทัลจากธนาคารกลาง(CBDC) และการชำระเงินระหว่างธนาคารพาณิชย์

มิกเคิลอธิบายว่า สเตเบิลคอยน์คือ IOU หรือพันธบัตรที่ออกโดยหน่วยงานหนึ่ง ๆ ซึ่งมีความเสี่ยงจากบุคคลที่สาม แต่ XRP มีมูลค่าเป็นของตัวเอง สามารถใช้ชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ได้ภายในเครือข่าย โดยไม่ต้องพึ่งความเชื่อมั่นภายนอก

อย่างไรก็ตาม เมลเคอร์ยังคงมีท่าที ‘สงสัย’ และเรียกร้องตัวอย่างการใช้งานจริง “มีกรณีใช้งานจริงในตอนนี้หรือไม่? หรือทั้งหมดนี้เป็นแค่ทฤษฎี?” เขากล่าว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า “ไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ทุกคนพูดถึงแต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”

กระนั้น เมลเคอร์ก็ยอมรับคำอธิบายของซันติอาโก้ เบเลซ ผู้ร่วมก่อตั้ง Onami Press ซึ่งชี้ว่า หนึ่งในหน้าที่ที่ใช้งานอยู่ของ XRP คือการเป็นค่าธรรมเนียมป้องกันสแปมภายในเครือข่าย XRP Ledger (XRPL) และยังเน้นว่ากระบวนการ ‘Rippling’ ที่ช่วยในการแปลงระหว่างหลายสกุลเงินคือข้อได้เปรียบทางเทคนิคของ XRP แม้ XRP จะไม่ใช่สินทรัพย์ที่มีเสถียรภาพ แต่เพราะไม่ต้องพึ่งพาผู้ออกโทเคนจากภายนอก จึงเหมาะสำหรับการโอนมูลค่าระหว่างระบบ

เมลเคอร์ยกย่องโครงสร้างของ XRPL ว่า “สง่างาม” แต่ยังตั้งคำถามว่าโครงสร้างนี้จะเชื่อมโยงกับ ‘ความต้องการซื้อ XRP’ ในระยะยาวได้หรือไม่ โดยเปรียบเปรยว่า “สะพานนั้นทำงานได้แน่นอน แต่ไม่แน่ใจว่าด่านเก็บค่าผ่านทางเริ่มเก็บเงินหรือยัง”

ในตอนท้าย มิกเคิลก็ได้กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ท้ายที่สุดแล้ว ผมมาที่นี่เพื่อหาเงิน” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกของนักลงทุน XRP จำนวนมากที่ยังคงตั้งความหวังเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของราคา มากกว่าการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ยังมีนักวิเคราะห์บางรายคงมุมมองว่า XRP อาจพุ่งแตะระดับ 5 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,900 บาท) ภายในรอบตลาดกระทิงครั้งนี้ ความคาดหวังจากนักลงทุนจึงยังมีอยู่ และทั่วทั้งชุมชนคริปโตและอุตสาหกรรมต่างจับตาว่า XRP จะสามารถหาจุดสมดุลระหว่าง ‘ศักยภาพทางเทคนิค’ กับ ‘แรงเก็งกำไรจากตลาด’ ได้หรือไม่

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1