เอฟเกนี กาวอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของวินเทอร์มิวต์(Wintermute) บริษัทผู้ดูแลสภาพคล่องในตลาดคริปโต ออกมายืนยันผ่านโซเชียลมีเดียของตัวเองว่า *ไม่มีแผนจะดำเนินคดีกับไบแนนซ์(Binance)* ตามที่มีข่าวลือเผยแพร่อยู่ในขณะนี้ โดยเขาระบุว่า “วินเทอร์มิวต์ไม่มีแผนยื่นฟ้องไบแนนซ์อย่างแน่นอน” และย้ำว่า จุดยืนของบริษัทไม่เคยเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้น
คำชี้แจงนี้มีขึ้นหลังเกิดเหตุ *การถูกชำระบัญชีครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม* ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์คริปโตเมื่อวัดตามมูลค่ารายวัน จนทำให้เกิดกระแสในโซเชียลมีเดียว่า วินเทอร์มิวต์อาจเตรียม *ดำเนินการทางกฎหมายตอบโต้ระบบ ADL (Auto-Deleveraging)* ของไบแนนซ์ที่อาจเป็นต้นเหตุของความเสียหาย อย่างไรก็ตาม วินเทอร์มิวต์ยืนยันว่าสถานการณ์ของบริษัทไม่มีปัญหา โดยกาวอยเคยออกมาย้ำเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมว่า “บริษัทไม่มีปัญหาใด ๆ”
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ยังได้จุดชนวน *ทฤษฎีสมคบคิด* ที่อ้างว่า วินเทอร์มิวต์และไบแนนซ์อาจร่วมมือกันแสวงหาผลประโยชน์จากเหตุการณ์การชำระบัญชี โดยมีบางโพสต์กล่าวหาว่าไบแนนซ์ย้ายสินทรัพย์ไปยังวินเทอร์มิวต์ในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนระบบ ADL ทำงาน และวินเทอร์มิวต์อาจมีบทบาทในการดึงราคาตลาดให้ร่วงเพื่อฉกฉวยกำไร แต่ *ข้อกล่าวหาเหล่านี้ ยังไม่มีหลักฐานสาธารณะใด ๆ รองรับ* ขณะที่การย้ายสินทรัพย์จำนวนมากที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ถูกชี้แจงว่าเป็นเพียง *กระบวนการปรับสมดุลสภาพคล่องตามปกติ*
แม้จะมีข้อครหามากมาย แต่ทั้งไบแนนซ์และวินเทอร์มิวต์ *ยังไม่ได้แสดงสัญญาณของความขัดแย้งหรือข้อพิพาททางกฎหมายต่อกัน* ด้านไบแนนซ์เองก็ออกมายืนยันชัดว่า ระบบ ADL ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับผู้เล่นรายใดรายหนึ่ง และไม่ได้เกิดจากข้อผิดพลาดของระบบ แต่เป็น *ผลตอบสนองของตลาดต่อสถานการณ์เปิดสัญญาล่วงหน้าที่สะสมเกินพิกัด*
นอกจากนี้ *จ้าว ฉางเผิง(CZ)* ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอของไบแนนซ์ ยังโพสต์ข้อความลงใน X (ทวิตเตอร์เดิม) แสดงความไม่พอใจต่อผู้ที่เชื่อทฤษฎีสมคบคิด โดยระบุว่า “ถ้ายังเชื่ออยู่ นี่อาจเป็นเวลาที่คุณควรกดเลิกติดตามได้แล้ว”
เหตุการณ์นี้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อน *ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบในตลาดคริปโต* และเน้นย้ำความสำคัญของ *ความโปร่งใสของระบบบนแพลตฟอร์มขนาดใหญ่* รวมถึงบทบาทของผู้ทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่องในสถานการณ์ผันผวน ความไว้วางใจในระบบทั้งหมดจึงยังต้องอาศัยการพิสูจน์ต่อไปในอนาคต
ความคิดเห็น 0