แม้ปี 2025 จะเป็นปีที่หลายฝ่ายคาดหวังว่า *ตลาดคริปโตจะกลับมาแข็งแกร่ง* อีกครั้ง แต่ *บิตคอยน์(BTC)* กลับสร้างผลตอบแทนได้ต่ำกว่าที่หลายคนคาดคิด โดยให้ผลตอบแทนเพียง 8% ตั้งแต่ต้นปีซึ่งยังต่ำกว่า *ผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐ* ที่ถือเป็น ‘สินทรัพย์ปลอดภัย’ ในตลาดทุน
โดยปกติพันธบัตรสหรัฐถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่เสถียรที่สุดในโลกและถูกใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับสินทรัพย์อื่น ดังนั้น การที่บิตคอยน์ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มสินทรัพย์เสี่ยง ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าพันธบัตร ยิ่งสะท้อนถึงความไม่มั่นใจของตลาดในขณะนี้ จากรายงานของยูทูเดย์ เมื่อเร็วๆ นี้บิตคอยน์เคยมีผลตอบแทนเหนือพันธบัตร แต่ราคาที่ร่วงลงอย่างรวดเร็วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ส่วนต่างผลตอบแทนทั้งหมดกลับไปจุดเริ่มต้นอีกครั้ง
ข้อมูลล่าสุดเผยว่าราคาบิตคอยน์เคยร่วงลงต่ำกว่า *100,000 ดอลลาร์* (ประมาณ 1 ล้านบาท) ซึ่งเป็น ‘แนวรับทางจิตวิทยา’ ที่สำคัญ และยังมาพร้อมกับกระแสเงินทุนที่ไหลออกจาก *บิตคอยน์ ETF แบบสปอต* โดยในวันที่ 4 พฤศจิกายนเพียงวันเดียว การไหลออกของเงินทุนสูงถึง 578 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 77 ล้านบาท) ขณะที่ราคาซื้อเฉลี่ยของ ETF กลุ่มนี้อยู่ที่ประมาณ 89,600 ดอลลาร์ (ราว 8.96 ล้านบาท) ซึ่งเมื่อราคาตกต่ำกว่าจุดนี้ ผู้ลงทุนจำนวนมากจึงเริ่มเผชิญกับ ‘การขาดทุนตามมูลค่าพอร์ต’
ในแง่ของความคิดเห็น มัต ฮาเกน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ *บิตไวส์(Bitwise)* วิเคราะห์ว่า สถานการณ์ปัจจุบันสะท้อนถึง “ความสิ้นหวังสูงสุด” ของนักลงทุนรายย่อย แต่เขายังไม่มองว่าการปรับฐานในรอบนี้จะลุกลามจนกลายเป็น ‘ฤดูหนาวคริปโต’ อีกครั้ง โดยระบุว่า แม้อารมณ์ของนักลงทุนจะอ่อนแรงลง แต่สภาพตลาดโดยรวมยังไม่ถึงขั้นพังทลายอย่างเป็นระบบ
สถานการณ์ที่ *บิตคอยน์ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าสินทรัพย์ปลอดภัย* นับเป็นสัญญาณเตือนที่น่าจับตา เพราะนอกจากสะท้อนความเปราะบางของตลาดคริปโตแล้ว ยังชี้ให้เห็นถึงโจทย์สำคัญที่สินทรัพย์ดิจิทัลต้องก้าวผ่านหากต้องการเป็นการลงทุนหลักในอนาคต ทั้งนี้ แนวโน้มราคาของบิตคอยน์ในระยะสั้นจะพึ่งพาความสามารถในการกลับมายืนเหนือแนวรับสำคัญ และทิศทางของเงินทุนใน ETF เป็นหลัก
ความคิดเห็น 0