ธนาคารกลางสาธารณรัฐเช็ก(CNB) เริ่มต้นการทดลองซื้อสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึง *บิตคอยน์(BTC)* เป็นครั้งแรกในสหภาพยุโรป โดยมีมูลค่าการซื้อประมาณ 1.37 พันล้านวอน หรือราว 36 ล้านบาทในสกุลเงินไทย ซึ่งโครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อศึกษาและเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของระบบการเงินในอนาคต ไม่ใช่เพื่อการลงทุนหรือเก็งกำไร
เมื่อวันที่ 24 ธนาคารกลางเช็กเปิดเผยว่า พอร์ตทดลองของโครงการนี้ประกอบด้วย *บิตคอยน์*, สเตเบิลคอยน์ที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐ และเงินฝากดอลลาร์ที่ถูกโทเคนไนซ์ โดยทั้งหมดไม่ถูกนับรวมในสินทรัพย์สำรองระหว่างประเทศ และดำเนินงานผ่าน ‘บัญชีแซนด์บ็อกซ์’ สำหรับทดลองใช้งานจริง
*ความคิดเห็น* การเคลื่อนไหวของธนาคารกลางเช็กครั้งนี้นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เนื่องจากที่ผ่านมา ธนาคารกลางส่วนใหญ่ในสหภาพยุโรปมีท่าทีระมัดระวังในการถือครองคริปโตโดยตรง เนื่องจากความผันผวนสูงและขาดความชัดเจนด้านกฎหมาย อย่างไรก็ตาม CNB เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยี เช่น โทเคนไนซ์ การชำระเงินดิจิทัล และบล็อกเชน อาจกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบเงินในอนาคต จึงให้ความสำคัญกับการเรียนรู้จากการใช้งานจริงมากกว่าการแข่งขันด้านผลตอบแทน
แนวคิดนี้ได้รับการเสนอครั้งแรกเมื่อต้นปี 2025 โดย อาเลช มิห์ล(Aleš Michl) ผู้ว่าการธนาคารกลาง ซึ่งเรียกร้องให้มีการเปิดรับ *บิตคอยน์* และสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทอื่นในฐานะส่วนหนึ่งของการกระจายพอร์ตการลงทุนของธนาคาร แม้ปริมาณการซื้อในครั้งนี้จะคิดเป็นเพียง 0.0006% ของสินทรัพย์ทั้งหมด แต่ก็ถือเป็นสัญญาณว่าธนาคารกลางพร้อมเรียนรู้จากประสบการณ์จริงโดยไม่เสี่ยงต่อเสถียรภาพของระบบการเงิน
CNB ระบุว่า โครงการนี้จะดำเนินต่อไปอย่างน้อย 2–3 ปี และอาจพิจารณาเพิ่มการถือครอง *สินทรัพย์ดิจิทัล* อย่างเป็นทางการ เช่น ETF บิตคอยน์ หรือพันธบัตรที่ถูกโทเคนไนซ์ หากสภาพแวดล้อมทางกฎหมายและเทคโนโลยีพัฒนาไปในทางที่เหมาะสม
*คำสำคัญ* การทดลองของธนาคารกลางเช็กถือเป็นอีกก้าวของการยอมรับคริปโตในระดับสถาบัน โดยเฉพาะภาคธนาคารกลางในยุโรปที่ก่อนหน้านี้มองคริปโตเป็นเพียงความเสี่ยงมากกว่าทางเลือก แม้จะยังอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้น แต่โครงการนี้อาจส่งอิทธิพลต่อธนาคารกลางในประเทศอื่นๆ ให้หันมาศึกษาและสำรวจความเป็นไปได้ของ *สินทรัพย์ดิจิทัล* ด้วยแง่มุมที่ลึกซึ้งและเป็นรูปธรรมมากขึ้น
ความคิดเห็น 0