Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บีเอ็นบีเชน(BNB) โตแรง! มูลค่าตลาดพุ่ง 51.6% แตะ 140.4 พันล้านดอลลาร์ กิจกรรมบนเครือข่ายทำสถิติใหม่

บีเอ็นบีเชน(BNB Chain) แสดงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 ทั้งในด้านมูลค่าสินทรัพย์ กิจกรรมบนเครือข่าย และการขยายระบบนิเวศในภาคส่วน DeFi และ NFT ตามรายงานของเมซซารี รีเสิร์ช(Messari Research) เมื่อวันที่ 24 โดยระบุว่า มูลค่าตลาดรวมของบีเอ็นบีเชนเพิ่มขึ้น 51.6% จากไตรมาสก่อนหน้า แตะระดับ 140.4 พันล้านดอลลาร์ พร้อมด้วยปริมาณธุรกรรมเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 35.3% สู่ 13.3 ล้านรายการ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในหลายตัวชี้วัด

ปัจจัยหลักที่ผลักดันให้เกิดการเติบโตนี้คือ ‘ราคาของโทเคน BNB’ ซึ่งพุ่งขึ้นกว่า 53.5% ในช่วงสิ้นไตรมาส อยู่ที่ 1,008.6 ดอลลาร์ ขณะเดียวกัน ค่าธรรมเนียมการใช้งานลดลงจากผลของฮาร์ดฟอร์ก Lorenz และ Maxwell ที่ช่วยปรับปรุงโครงสร้าง Gas Fee ทำให้รายได้จากค่าธรรมเนียมโดยรวมรักษาระดับไว้ที่ราว 44 ล้านดอลลาร์ แม้ราคาจะปรับขึ้นก็ตาม โดยเมซซารีมองว่า บีเอ็นบีเชนยังคงยึดแนวทาง ‘เน้นการขยายผู้ใช้มากกว่าการมุ่งผลกำไรระยะสั้น’

ด้านกิจกรรมบนบล็อกเชน ผู้ใช้งานแบบกระเป๋าเงินแอคทีฟเฉลี่ยรายวันเพิ่มขึ้นกว่า 47% แตะ 2.3 ล้านบัญชี โดยพบการใช้งานที่เติบโตในภาค DeFi, NFT และเหรียญที่มีมูลค่าคงที่อย่าง ‘สเตเบิลคอยน์’ สำหรับมูลค่ารวมที่ล็อกไว้ (TVL) ในโปรโตคอล DeFi ขยายขึ้นเป็น 7.8 พันล้านดอลลาร์ นำโดยการเติบโตของแพนเค้กสว็อป, รีสตาโด และอาสเตอร์ โดยเฉพาะ ‘อาสเตอร์’ ที่เพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 12.5% ภายในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยปัจจัยหนุนจากการเปิดตัวโทเคน ASTER และการแจกจ่ายแบบแอร์ดรอปอย่างกว้างขวาง

ในส่วนของสเตเบิลคอยน์ บีเอ็นบีเชนยังเห็นการเติบโตที่ชัดเจน โดยมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 13.9 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 32.3% จากไตรมาสก่อน โดยเฉพาะ ‘USDe’ ที่เพิ่มขึ้นกว่า 1,000% สู่ระดับ 432 ล้านดอลลาร์ จากการสนับสนุนของไบแนนซ์และการพัฒนากรอบการใช้สินทรัพย์ค้ำประกัน ขณะที่ ‘USDF’ ก็เติบโตขึ้นถึง 360 ล้านดอลลาร์ ตามความต้องการสนับสนุนและการชำระเงินภายในแพลตฟอร์มอาสเตอร์ เมซซารีชี้ว่า นโยบาย ‘0-Fee คาร์นิวัล’ ช่วยเร่งให้สเตเบิลคอยน์เข้าสู่เครือข่ายอย่างรวดเร็ว

โครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิคก็มีพัฒนาการอย่างเห็นได้ชัด ‘Reth’ ไคลเอนต์บล็อกเชนที่ใช้ภาษา Rust ของ Paradigm เปิดตัวเวอร์ชันอัลฟาและสามารถประมวลผลเร็วขึ้น 40% เมื่อเทียบกับ Geth โดยเครือข่ายตั้งเป้าเพิ่มประสิทธิภาพให้ถึงบล็อกไทม์ 750 มิลลิวินาที และรองรับก๊าซได้ 1GB ต่อวินาที ด้านการรับมือกับการโจมตีแบบ MEV ก็ได้รับการปรับปรุงผ่านโครงการ Good Will Alliance(GWA) ซึ่งลดเหตุการณ์โจมตีแบบแซนด์วิชได้มากกว่า 95% เหลือเพียง 1,000 กรณีต่อวัน จากระดับที่เคยสูงถึง 140,000 กรณี

นอกจากนี้ ตลาด NFT และชุมชนนักพัฒนาในบีเอ็นบีเชนก็เร่งตัวตามไปด้วย มูลค่าการซื้อขาย NFT รายวันเพิ่มขึ้นเกือบ 95% อยู่ที่ 1.8 ล้านดอลลาร์ ขณะที่จำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า นักพัฒนาเข้าร่วมมากขึ้นผ่านโครงการบ่มเพาะอย่าง MVB ซีซั่น 10-11 และโปรแกรม Kickstarter เวอร์ชันใหม่ ขณะเดียวกัน บีเอ็นบีเชนยังจับมือกับสถาบันการเงินอย่างแฟรงคลิน เทมเพิลตัน และ xStocksFi เพื่อผลักดันการนำสินทรัพย์จริงเข้าสู่บล็อกเชน ซึ่งช่วยขยายความสนใจจากฝั่งสถาบัน

ในภาพรวม บีเอ็นบีเชนสามารถสร้างความแข็งแกร่งได้ในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น TVL, ปริมาณการซื้อขายผ่าน DEX, การออกเหรียญสเตเบิลคอยน์, การมีส่วนร่วมในตลาด NFT, เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา รวมถึงประสิทธิภาพของระบบ เครือข่ายนี้กลายเป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า การผสาน ‘ประสบการณ์ผู้ใช้’ กับ ‘โครงสร้างพื้นฐานที่ล้ำสมัย’ สามารถส่งผลให้เครือข่ายคริปโตเติบโตอย่างรวดเร็วและยั่งยืนได้อย่างไร ‘ความคิดเห็น’: ความสำเร็จของบีเอ็นบีเชนในไตรมาสนี้อาจเป็นสัญญาณว่านิเวศทางเลือกนอกเหนือจากอีเธอเรียม(ETH) เริ่มดึงดูดสภาพคล่องและการพัฒนาได้มากยิ่งขึ้นในตลาดคริปโตที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1