อีเธอเรียม(ETH) กำลังกลับมาทดสอบแนวรับสำคัญอีกครั้ง โดยในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ราคาปรับลดลงมากกว่า 11% และปัจจุบันเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 3,200 ดอลลาร์ หรือประมาณ 430 ล้านบาท ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายกำลังจับตาระดับ 2,875 ดอลลาร์ (ราว 387 ล้านบาท) ว่าอาจเป็น ‘จุดเปลี่ยน’ สำคัญต่อทิศทางตลาดในระยะสั้น
นักเทรดคริปโตชื่อดัง ‘คริปโต พาเทล’ ระบุว่า ระดับ 2,875 ดอลลาร์ ถือเป็น ‘แนวตัดสินทิศทาง’ หากสามารถประคองราคาที่จุดนี้ไว้ได้ มีโอกาสที่อีเธอเรียมจะกลับขึ้นไปแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ หรือราว 671 ล้านบาท ซึ่งเป็นจุดที่ทับซ้อนกับระดับฟีโบนักชี 0.382 และพื้นที่ ‘Fair Value Gap (FVG)’ ที่ยังไม่เคยถูกทดสอบ ทำให้มีนัยสำคัญในเชิงเทคนิคอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม หากหลุดแนวรับดังกล่าว ราคาก็อาจร่วงลงไปสู่ช่วง 2,250–2,620 ดอลลาร์ (หรือประมาณ 301–352 ล้านบาท) ซึ่งเขามองว่าเป็น ‘ช่วงสะสม’ ที่ดีสำหรับนักลงทุนระยะยาว
ในขณะเดียวกันโซนราคา 3,100–3,200 ดอลลาร์ (ประมาณ 416–430 ล้านบาท) กำลังทำหน้าที่เป็นแนวรับระยะสั้น นักวิเคราะห์ชื่อ Cipher X ให้ความเห็นว่า ถ้าระดับนี้สามารถรักษาไว้ได้ โครงสร้างการฟื้นตัวมีโอกาสดำเนินต่อ โดยหากราคาปรับขึ้นเหนือ 3,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 470 ล้านบาท) ได้สำเร็จ แนวต้านถัดไปในกรอบกลางจะอยู่ที่ 4,200–4,500 ดอลลาร์ (หรือประมาณ 564–603 ล้านบาท)
ด้านนักวิเคราะห์จาก Daan Crypto Trades ชี้ว่า ปัจจุบันอีเธอเรียมกำลังเคลื่อนไหวใกล้ระดับฟีโบนักชี 0.618 และอยู่ในตำแหน่งกลางระหว่างแนวรับและแนวต้าน โดยชี้ให้เห็นว่า 2,800 ดอลลาร์ (ราว 376 ล้านบาท) คือระดับถัดไปที่ควรจับตามอง พร้อมทั้งระบุว่าราคาจะต้องทะลุ 3,650 ดอลลาร์ (ประมาณ 490 ล้านบาท) เพื่อยืนยันแนวโน้มเชิงบวก
ขณะที่นักวิเคราะห์ชื่อ ‘เท็ด เทรดเดอร์’ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากอีเธอเรียมย่อตัวลงมาแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 403 ล้านบาท) และดีดตัวกลับ ระดับ 3,500 ดอลลาร์ถือเป็นแนวต้านที่สำคัญ ซึ่งหากสามารถทะลุได้สำเร็จ อาจกระตุ้น ‘แรงซื้อ’ ให้กลับมาอีกครั้ง ในทางกลับกัน หากไม่สามารถฝ่าขึ้นได้ ก็มีความเสี่ยงที่ราคาจะถอยกลับลงมาต่ำกว่า 3,000 ดอลลาร์อีกครั้ง ทั้งนี้ ราคายังอยู่ในช่วงทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 สัปดาห์ ซึ่งเคยเป็นแนวต้านนานกว่าหนึ่งปี โดยช่วงดังกล่าวอยู่ระหว่าง 3,200–3,500 ดอลลาร์
ด้านเครือข่ายของอีเธอเรียมก็ยังคงมีความเคลื่อนไหวอยู่ต่อเนื่อง โดย วีทาลิก บูเตอริน ผู้ก่อตั้ง เผยแพร่ ‘Trustless Manifesto’ ซึ่งมุ่งเน้นการกระจายศูนย์กลางและการใช้งานกระเป๋าเก็บสินทรัพย์แบบไม่มีตัวกลาง อีกทั้งในระดับองค์กร บริษัทเกม SharpLink Gaming ได้รายงานว่า รายได้ในไตรมาส 3 พุ่งขึ้นกว่า 1,100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยใช้กลยุทธ์ที่เชื่อมโยงกับอีเธอเรียม ทำให้ผลประกอบการแตะ 104 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,397 ล้านบาท
ในส่วนของนักลงทุนสถาบันก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวเช่นกัน โดย อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) อดีตซีอีโอของ BitMEX ขายอีเธอเรียมไป 1,480 เหรียญ มูลค่าประมาณ 470 ล้านดอลลาร์ หรือ 63 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าเขาเคยขายในราคาต่ำแล้วกลับมาซื้อใหม่ในราคาสูงในอดีต จึงไม่อาจสรุปได้เสมอว่าเขาตัดสินใจแม่นยำตลอดเวลา
ทั้งในด้านเทคนิคและพื้นฐาน ปัจจุบันอีเธอเรียมอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญ โดยราคาที่ 2,875 ดอลลาร์และ 3,500 ดอลลาร์ คือ *ระดับเฝ้าระวัง* อย่างยิ่ง ซึ่งผลลัพธ์ในช่วงสั้นนี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางในระยะต่อไปอย่างมีนัยสำคัญ
ความคิดเห็น 0