Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

DeFi สะเทือน! Stream Finance ล่ม ฉุดตลาดสูญ 93 ล้านดอลลาร์ สะท้อนจุดอ่อนระบบ

DeFi สะเทือน! Stream Finance ล่ม ฉุดตลาดสูญ 93 ล้านดอลลาร์ สะท้อนจุดอ่อนระบบ / Tokenpost

ระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) กำลังเผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ หลังเกิด ‘การล่มสลายแบบลูกโซ่’ จากโปรโตคอลหลักหลายแห่ง ซึ่งไม่เพียงเป็นปัญหาระดับโครงการเดี่ยว แต่ยังสะท้อน ‘ความเปราะบางเชิงโครงสร้าง’ และการขาดความรับผิดชอบในระบบการเงินยุคใหม่ ตามรายงานล่าสุดจากไทเกอร์รีเซิร์ช (Tiger Research) เมื่อวันที่ 24

จุดเริ่มต้นของวิกฤตนี้ คือการล่มสลายของ xUSD ซึ่งเป็นเหรียญเสถียรของโปรเจกต์สตรีม ไฟแนนซ์ (Stream Finance) โดยโปรเจกต์ดังกล่าวเคยชูแนวคิดการลงทุนแบบไร้ตัวกลาง พร้อมโฆษณาผลตอบแทนที่สูง แต่ภายใต้โครงสร้างการกู้ยืมแบบหมุนเวียนที่ใช้ xUSD เป็นหลักประกัน กลับกลายเป็นการปกปิดเลเวอเรจและสินทรัพย์ด้อยคุณภาพอย่างแยบยล จากข้อมูลของไทเกอร์รีเซิร์ช พบว่าความล้มเหลวในการบริหารทุนจากภายนอก นำไปสู่การขาดทุนราว 93 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ผู้ใช้แห่ถอนเงินออกจากระบบ หรือเกิดภาวะ ‘Bank Run’ บนบล็อกเชน ทำให้แพลตฟอร์มถึงจุดล่มสลายในที่สุด

แรงกระแทกจากเหตุการณ์นี้ยังแพร่กระจายไปยังโปรเจกต์ DeFi อื่น ๆ เช่น deUSD ของเอลิกเซอร์ (Elixir), sfastUSD ของ Yei Finance และตลาดสินเชื่อของคอมพาวด์(Compound) ซึ่งช่องว่างด้านราคาจากระบบข้อมูลแบบ Oracle ที่ล่าช้าและต้องตั้งค่าด้วยมือ ทำให้เกิดหนี้เสียเพิ่มเติม โดยธรรมชาติของโปรเจกต์ DeFi ที่แชร์โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน เมื่อโปรโตคอลหนึ่งพังลง ย่อมส่งผลต่อค่าหลักประกันและสัญญาภายนอกของอีกโปรเจกต์หนึ่ง

รายงานฉบับนี้ชี้ชัดว่าความรับผิดชอบไม่ได้อยู่ที่ ‘นักลงทุน’ แต่เป็น ‘ผู้ดูแลความเสี่ยง (Curator)’, ‘โปรโตคอลแบบไร้สิทธิ์อนุญาต (Permissionless)’ และ ‘หน่วยวิเคราะห์ข้อมูล’ ที่ละเลยสัญญาณเตือนล่วงหน้า โดยไทเกอร์รีเซิร์ชยอมรับว่าตนเองในฐานะสถาบันวิจัยก็มีส่วนที่ไม่สามารถเตือนภัยได้ทันท่วงที ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญของภาคอุตสาหกรรม

จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เกิดการถกเถียงขึ้นอีกครั้งระหว่าง ‘โครงสร้างรวมศูนย์แบบ AAVE’ กับ ‘โครงสร้างวอลต์อิสระอย่าง Morpho และ Euler’ โดยสตานี คูเลชอฟ(Stani Kulechov) ผู้ก่อตั้ง AAVE ระบุว่าโครงสร้างแบบแยกกระตุ้นพฤติกรรมเสี่ยงเกินควร ขณะที่พอล ฟรอมโบต์(Paul Frambot) จาก Morpho ปกป้องระบบเปิดที่สนับสนุนนวัตกรรมและการทดลองใหม่ รุ่นต่อไปของ DeFi จึงต้องเลือกระหว่าง ‘ความปลอดภัยจากการควบคุม’ หรือ ‘เสรีภาพที่อาจนำไปสู่ความเปราะบาง’

แต่ที่สำคัญยิ่งกว่ารูปแบบโครงสร้าง คือ ‘ความโปร่งใส’ และ ‘ระบบความรับผิด’ ในเมื่อ DeFi ขับเคลื่อนด้วยการกำกับตนเอง ไม่อยู่ภายใต้ทางการ หน่วยลงทุนจึงไม่สามารถเข้าถึงเกณฑ์วิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงที่น่าเชื่อถือได้ รายงานเสนอแนวทางว่า ควรมีระบบจัดอันดับเครดิตแบบอิสระ พร้อมแดชบอร์ดวิเคราะห์เชิงปริมาณ และระบบความรับผิดของ Curator โดยให้วางเงินค้ำประกัน เพื่อคืนความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งาน

ไทเกอร์รีเซิร์ชยังย้ำว่า หากต้องการให้ DeFi กลายเป็นระบบการเงินอย่างยั่งยืน ต้องมีการกำหนดบทบาทที่ชัดเจน เช่น Curator ต้องคำนึงถึงผลตอบแทนในระดับ ‘เหมาะสม’ พร้อมดูแลผู้ใช้ โปรโตคอลต้องให้ความสำคัญกับ ‘เสถียรภาพระบบ’ มากกว่านวัตกรรมโดดเด่น และบริษัทวิจัยควรทำหน้าที่เสนอ ‘การเตือน’ มากกว่าทำตามกระแส

เหตุการณ์ล่มสลายของสตรีม ไฟแนนซ์ จึงไม่ใช่แค่ปัญหาเฉพาะกิจ แต่เป็นสัญญาณเตือนถึง ‘กลไกของอุตสาหกรรมที่ควบคุมไม่ได้’ ในขณะที่นักลงทุนจำนวนมากต้องเผชิญกับความเสียหาย ภาค DeFi จำเป็นต้องแก้ปัญหา ‘การละเลยการบริหารความเสี่ยง’ อย่างเร่งด่วน เพราะหากไม่ปรับตัวตั้งแต่ตอนนี้ วิกฤตรอบถัดไปอาจไม่รอช้านานนัก

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความหลัก

Threshold อัปเกรด tBTC หนุนสถาบันนำบิตคอยน์(BTC) เข้าสู่ DeFi ได้ง่ายขึ้น

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1