อีเธอเรียม(ETH) ร่วงลงเกือบ 15% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แตะใกล้ระดับแนวรับ 3,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 405,000 บาท) โดยมีรายงานว่าการเทขายครั้งใหญ่ของกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ หรือ ‘วาฬ’ เป็นปัจจัยหลักในการกดดันราคา
ตามรายงานเมื่อวันที่ 24 จากนักวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน อาลี มาร์ติเนซ กระเป๋าเงินที่ถือครองอีเธอเรียมในช่วง 1,000–10,000 เหรียญ ได้ทำการขายรวมกันถึง 230,000 ETH ในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดถือครองลดลงจาก 14.4 ล้าน ETH เหลือ 14.17 ล้าน ETH ขณะเดียวกัน ราคาก็ร่วงจากระดับ 3,600 ดอลลาร์ สู่บริเวณ 3,200 ดอลลาร์ (ประมาณ 432,000 บาท) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการกระทำของนักลงทุนรายใหญ่เหล่านี้อาจสร้าง ‘แรงกดดันด้านลบ’ ต่อภาพรวมของตลาด
ในขณะที่ราคาปรับตัวลง ตลาดก็ยังไม่แสดงสัญญาณของ ‘นักลงทุนกลุ่มใหม่’ ที่เข้าสู่ระบบเครือข่ายอย่างชัดเจน โดย PelinayPA นักวิเคราะห์จาก CryptoQuant ชี้ว่าตัวชี้วัดการฝากเหรียญเข้าสู่ระบบของ ETH ยังคงอยู่ในระดับทรงตัวตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา “การฟื้นตัวของราคาในรอบนี้อาจอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น และการเข้าร่วมของนักลงทุนรายย่อยยังไม่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง” เขาระบุ พร้อมเสริมว่าจากประวัติที่ผ่านมา การเข้าร่วมของผู้ลงทุนรายย่อยถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญต่อทิศทางขาขึ้นของ ETH
จากมุมมองทางเทคนิค อีเธอเรียมกำลังทดสอบแนวรับสำคัญบริเวณ 3,000 ดอลลาร์ โดยนักวิเคราะห์ที่ใช้ชื่อว่า คริปโต พาเทล ระบุว่า บริเวณนี้อาจเป็น ‘จุดน่าสนใจแรกสำหรับการเข้าซื้อ’ หากไม่สามารถประคองแนวรับนี้ไว้ได้ ระดับต่อไปที่จะรับบทเป็นแนวรับอาจอยู่ที่ระดับ 2,400 ดอลลาร์ (ประมาณ 324,000 บาท) ฟีโบนัชชีรีเทรซเมนต์ยังชี้ถึงระดับ 2,621 ดอลลาร์ (ประมาณ 354,000 บาท) และ 2,255 ดอลลาร์ (ประมาณ 304,000 บาท) เป็นแนวรับระยะยาวที่ควรจับตามอง
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์กราฟเทคนิคชื่อ Lucky เผยว่า ETH ปัจจุบันอยู่ในช่องแนวโน้มขาลง โดยราคายืนอยู่ในช่วงล่างที่ 2,900–3,100 ดอลลาร์ ซึ่งเป็น ‘โซนที่เคยเกิดช่องว่างราคา’ และอาจกลายเป็นพื้นที่สำหรับการฟื้นตัว หากสามารถดีดตัวทะลุแนวต้านด้านบนได้ ก็อาจมีโอกาสเห็นราคาเคลื่อนกลับสู่ระดับ 4,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 540,000 บาท)
อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องในตลาดและความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังคงส่งสัญญาณผสมกันอยู่ เทรดเดอร์นามว่า Ted มองว่า ในขณะที่บิตคอยน์(BTC) ยังคงอ่อนตัวลง อีเธอเรียมอาจกลับมาทดสอบระดับความเคลื่อนไหวอยู่ที่โซน 2,900–3,000 ดอลลาร์อีกครั้ง พร้อมเตือนว่าหากเกิดการดีดตัวอย่างรวดเร็ว อาจยังต้องเจอด่านต้านที่แข็งแกร่งบริเวณ 3,600 ดอลลาร์
ปัจจุบัน อีเธอเรียมยังซื้อขายต่ำกว่าระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 4,950 ดอลลาร์ (ประมาณ 668,000 บาท) ถึง 39% โดย ‘ความคิดเห็น’ จากผู้เชี่ยวชาญหลายรายชี้ว่าหากแรงขายของวาฬลดลง และผู้ใช้ใหม่เริ่มเข้ามาในระบบมากขึ้น อีเธอเรียมอาจมีโอกาส ‘ฟื้นตัวในระยะกลางถึงยาว’ แต่ในระยะสั้น ความผันผวนและความไม่แน่นอนยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0