นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดบิตคอยน์(BTC) ที่รู้จักกันในชื่อ ‘สปูฟี(Spoofy)’ ได้เข้าซื้อบิตคอยน์มูลค่าสูงถึง 344 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางราคาที่ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 90,000 ดอลลาร์
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ชุมชนคริปโตได้รายงานว่าสปูฟีได้ทำการซื้อบิตคอยน์เพิ่มอีก 4,000 BTC โดยมีช่วงราคาซื้ออยู่ที่ 82,000-85,000 ดอลลาร์ ซึ่งเมื่อคำนวณตามราคาปัจจุบันแล้ว ค่าพอร์ตการลงทุนส่วนนี้มีมูลค่าราว 344 ล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์คริปโต ‘เซนต์ พัมพ์(Saint Pump)’ ระบุว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นฝีมือของสปูฟี ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่เคลื่อนไหวในตลาดบิตคอยน์มาอย่างยาวนาน และเคยมีบทบาทสำคัญที่ส่งผลต่อความผันผวนของราคาในอดีต
โดยเฉพาะในปี 2017 สปูฟีเคยถูกกล่าวหาว่าใช้เทคนิค ‘สปูฟฟิง(spoofing)’ หรือการวางคำสั่งซื้อจำนวนมากแล้วทำการยกเลิกก่อนการจับคู่คำสั่งซื้อ เพื่อสร้างภาพลวงตาเกี่ยวกับอุปสงค์และอุปทานของตลาด
หากดูจากรูปแบบการลงทุนของสปูฟี จะเห็นได้ว่าเขามักเข้าซื้อในช่วงตลาดซบเซาและทยอยขายในช่วงภาวะขาขึ้น ในปี 2022 สปูฟีอาศัยจังหวะตลาดขาลงจากการล่มสลายของลูน่าและ FTX ในการสะสมบิตคอยน์จำนวนมาก
ตามข้อมูลจากเซนต์ พัมพ์ สปูฟีได้เข้าซื้อบิตคอยน์กว่า 70,000 BTC ในช่วงที่ราคาตกลงมาอยู่ในช่วง 40,000-16,000 ดอลลาร์ และต่อมาในปี 2023-2024 เมื่อราคากลับมาอยู่ในช่วง 40,000-70,000 ดอลลาร์ เขาก็เริ่มทยอยขายส่วนหนึ่งออกไป
ในปี 2024 สปูฟียังคงสะสมบิตคอยน์อย่างต่อเนื่อง และเมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศนโยบายสนับสนุนคริปโต ทำให้ราคาพุ่งขึ้น เขาจึงใช้โอกาสนี้ในการขายบางส่วนในช่วง 70,000-108,000 ดอลลาร์
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าความผันผวนของตลาดส่งผลให้มีนักลงทุนรายใหม่จำนวนมากขาดทุนหนัก บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน ‘Glassnode’ เปิดเผยว่า ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ตลาดบิตคอยน์มีผลขาดทุนที่เกิดขึ้นจริงกว่า 2.16 พันล้านดอลลาร์
โดยกลุ่มนักลงทุนที่ซื้อบิตคอยน์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นกลุ่มที่ขาดทุนหนักที่สุด ขณะที่นักลงทุนระยะยาวที่ถือเหรียญมาแล้ว 3-12 เดือนได้รับผลกระทบที่ค่อนข้างน้อย
‘คิม ยองจู’ ซีอีโอของบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน ‘CryptoQuant’ ให้ความเห็นว่า “ตลาดบิตคอยน์มักมีการปรับฐานราว 30% ในช่วงขาขึ้น ซึ่งในปี 2021 ราคาบิตคอย์เคยปรับตัวลงกว่า 53% ก่อนแตะระดับสูงสุดใหม่” พร้อมเตือนว่า “การซื้อตอนราคาสูงและขายตอนไม่มั่นใจ เป็นกลยุทธ์ที่ผิดพลาดอย่างมาก”
นักลงทุนระยะยาวอาจไม่ตื่นตระหนกกับการแตะระดับต่ำสุดใหม่ แต่ผู้ลงทุนหน้าใหม่กลับมีแนวโน้มขายขาดทุนด้วยความตื่นตระหนก ท่ามกลางกระแสการลงทุนของสปูฟีที่ยังคงแข็งแกร่ง ต้องรอดูว่าการปรับฐานครั้งนี้จะกลายเป็นโอกาสซื้อครั้งสำคัญอีกครั้งหรือไม่
ความคิดเห็น 0