ซีอีโอซากะชี้ อุตสาหกรรมคริปโตเอนเอียงพรรครีพับลิกันมากขึ้นหลังเลือกตั้ง

เรเบคกา เหลียว ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของซากะ(Saga) อธิบายถึงเหตุผลที่ทำให้อุตสาหกรรมคริปโตเอนเอียงไปทางพรรครีพับลิกันมากขึ้นในช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมา เธอให้สัมภาษณ์กับ Cointelegraph ที่งาน ETHDenver โดยกล่าวว่า “อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลเคยเป็นเรื่องที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่ด้วยนโยบายต่อต้านคริปโตของรัฐบาลชุดก่อน ทำให้อุตสาหกรรมนี้มีแนวโน้มสนับสนุนพรรครีพับลิกันมากขึ้น”

เหลียวชี้ให้เห็นว่าความท้าทายที่สำคัญที่สุดที่อุตสาหกรรมกำลังเผชิญคือแนวทางกำกับดูแลที่ไม่มีความสม่ำเสมอของสำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) เธออธิบายว่า “ชุมชนคริปโตมองว่าโครงสร้างอำนาจเดิมไม่เอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม จึงหันไปให้ความร่วมมือกับพรรครีพับลิกันมากขึ้น” หนึ่งในปัจจัยสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้คือ ‘กระแสต่อต้านอำนาจเดิม’ ซึ่งทั้งพรรครีพับลิกันและอุตสาหกรรมคริปโตต่างมีแนวคิดร่วมกันในเรื่องของ ‘การท้าทายระเบียบเดิม’

นอกจากนี้ เงินสนับสนุนทางการเมืองก็มีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงจุดยืนของพรรครีพับลิกันต่อคริปโต เหลียวกล่าวว่า “เราต้องยอมรับความจริงว่าจำนวนเงินที่สนับสนุนทางการเมืองนั้นส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้มีอำนาจ” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงเหตุผลที่อุตสาหกรรมคริปโตพยายามสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มการเมืองหลัก

ในขณะเดียวกัน หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่สอง รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ปรับเปลี่ยนจุดยืนต่ออุตสาหกรรมคริปโต SEC ถอนการดำเนินคดีต่อ 6 บริษัทด้านคริปโตในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 และปรับทิศทางด้านกฎระเบียบใหม่ คดีความที่ยืดเยื้อกับคอยน์เบส(Coinbase) ถูกยกเลิก ขณะที่การสอบสวนตลาด NFT อย่างโอเพนซี(OpenSea) ก็สิ้นสุดลง นอกจากนี้ การดำเนินการทางกฎหมายกับแพลตฟอร์มดีไฟอย่างยูนิสวอป(Uniswap) รวมถึงบริษัทอื่น ๆ เช่น เจมิไน(Gemini) และคอนเซนซิส(Consensys) ก็ถูกยกเลิก ส่งผลให้อุตสาหกรรมคริปโตเริ่มสัมผัสได้ถึงทิศทางที่ผ่อนคลายขึ้น

การเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลภายใต้ทรัมป์นี้อาจส่งผลดีต่อการบูรณาการคริปโตเข้าสู่ระบบการเงินกระแสหลัก ซึ่งต้องจับตาดูกันต่อไปว่าจะเป็นไปในทิศทางใด