ไทยสั่งเวิลด์ยุติสแกนม่านตา-ลบข้อมูลผู้ใช้ 1.2 ล้านราย เหตุละเมิด PDPA

รัฐบาลไทยสั่งระงับการดำเนินงานของโครงการ ‘เวิลด์(World)’ ที่ได้รับการสนับสนุนโดย แซม อัลท์แมน พร้อมขอให้ลบบันทึกข้อมูลชีวมิติเกี่ยวกับม่านตาของผู้ใช้ในประเทศ หลังตรวจพบว่ามีการละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ซึ่งครอบคลุมข้อมูลผู้ใช้กว่า *1.2 ล้านราย*

เมื่อวันที่ 17 กระทรวงเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมของไทย (MDES) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้มีคำสั่งให้เวิลด์ลบข้อมูลม่านตาที่เก็บไว้ โดยระบุว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิด *กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล(PDPA)* ซึ่งควบคุมแนวทางการเก็บ รวบรวม และเปิดเผยข้อมูลอย่างเข้มงวด

*เวิลด์(World)* เป็นโครงการที่ใช้การสแกนม่านตาเพื่อยืนยันตัวตนดิจิทัล โดยให้รางวัลเป็นโทเคน *เวิลด์คอยน์(WLD)* ตามข้อมูลที่ผ่านมา เวิลด์เคยถูกตรวจสอบจากหน่วยงานในกรุงเทพฯ เมื่อเดือนตุลาคม เนื่องจากมีแนวโน้มละเมิดทั้งกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัล

ด้วยเหตุดังกล่าว ผู้ดำเนินงานของเวิลด์ในไทยอย่าง *TIDC เวิลด์เวิร์ส(Worldverse)* ได้ระงับการให้บริการยืนยันตัวตนทั้งหมด โดยทางเวิลด์ได้ออกแถลงการณ์ผ่านแพลตฟอร์ม X (เดิมคือ Twitter) ว่า “ได้ยุติการดำเนินงานสถานีสแกน Orb ในไทยตามคำร้องขอของหน่วยงานด้านกำกับดูแล และนำชื่อประเทศไทยออกจากรายชื่อประเทศที่ให้บริการ”

อย่างไรก็ตาม เวิลด์ยังคงยืนกรานว่าไม่ได้กระทำการใดที่ผิดกฎหมาย พร้อมแถลงว่า “ดำเนินการอย่างสอดคล้องกับกฎหมายท้องถิ่นเสมอ และให้ข้อมูลแก่หน่วยงานอย่างโปร่งใส” แสดงให้เห็นถึงท่าทีไม่ยอมรับต่อคำสั่งดังกล่าว

เทคโนโลยีการยืนยันตัวตนผ่านม่านตาถือเป็นหัวใจสำคัญของโครงการเวิลด์ โดยมีเป้าหมายเพื่อระบุตัวตนผู้ใช้แบบไม่ซ้ำซ้อนด้วยข้อมูลชีวมิติ อย่างไรก็ตาม ความกังวลด้านสิทธิส่วนบุคคลได้กลายเป็นประเด็นปัญหาในหลายประเทศ ทั้งเยอรมนี ฝรั่งเศส และเคนยา ต่างเคยบีบให้เวิลด์ปรับการดำเนินงานมาแล้ว

ความคิดเห็นหนึ่งชี้ให้เห็นว่า การบังคับใช้กฎหมายของไทยในครั้งนี้สะท้อนถึง ‘การปะทะระหว่างอธิปไตยข้อมูล(Data Sovereignty)’ และข้อเสนอจากระบบเศรษฐกิจแบบกระจายศูนย์ของโลกคริปโตอย่างแท้จริง โดยเฉพาะต่อประเด็นจริยธรรมและความโปร่งใสของเทคโนโลยียืนยันตัวตนใน Web3 ซึ่งกลับมาได้รับความสนใจอย่างเข้มข้นอีกครั้ง

ในแง่มุมของตลาด การตอบโต้อันเข้มงวดจากฝั่งเอเชียต่อโครงการของแซม อัลท์แมนทำให้เห็นว่า *ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอาจไม่เพียงพอหากไม่เคารพสิทธิส่วนบุคคล* กระทบต่อความสามารถในการขยายตัวของเวิลด์คอยน์(WLD) พร้อมจุดประกายให้โครงการยืนยันตัวตนอิงชีวมิติทั่วโลกต้องเผชิญกับ *ความเสี่ยงในการถูกกำกับดูแล* มากขึ้น ชัดเจนว่ายุทธศาสตร์การปฏิบัติตามกฎหมายข้อมูลในตลาดเอเชียจะเป็นหัวใจสำคัญต่อไป