Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC) ร่วงหนัก 16% หลัง ‘แรลลี่ทรัมป์’ จบสิ้น นักลงทุนจับตานโยบายเฟดและสภาพคล่องโลก

Sat, 01 Mar 2025, 03:45 am UTC

บิตคอยน์(BTC) กำลังเผชิญกับแรงกดดันขาย หลังจาก ‘แรลลี่ทรัมป์’ สิ้นสุดลง นักลงทุนกำลังจับตามองนโยบายลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และกระแสสภาพคล่องทั่วโลกเพื่อหาทิศทางใหม่ของตลาด

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศเพิ่มเพดานหนี้จาก 36.1 ล้านล้านดอลลาร์สู่ 40.1 ล้านล้านดอลลาร์ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีลดลงจาก 4.4% เป็น 4.29% แม้ว่าสิ่งนี้จะช่วยลดความไม่แน่นอนในตลาด แต่ดัชนีหุ้นและคริปโตกลับร่วงลง ดัชนี S&P 500 ลดลง 3% นาสแด็ก 100 ร่วง 5% ในขณะที่บิตคอยน์ทรุดตัวถึง 16% สะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุน

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดผันผวนคือสัญญาณเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนลดลงสู่ระดับ 64.7 จาก 71.7 ยอดขายบ้านมือสองหดตัว 4.9% และดัชนี PMI ของ S&P Global ปรับตัวลดลงจาก 52.7 เป็น 50.4 นอกจากนี้ ทรัมป์ยังประกาศเตรียมเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา เม็กซิโก และสหภาพยุโรป สร้างความกังวลด้านสงครามการค้าเพิ่มขึ้น

บรรยากาศความกลัวในตลาดคริปโตเริ่มทวีความรุนแรง ดัชนี ‘ความกลัวและความโลภ’ ร่วงสู่ระดับ 10 จุด สวนทางกับความเชื่อมั่นเชิงบวกเมื่อต้นปี นักวิเคราะห์จึงเริ่มให้ความสนใจกับความเป็นไปได้ที่เฟดอาจกลับมาดำเนินนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) หรือปรับลดอัตราดอกเบี้ย

อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) ผู้ร่วมก่อตั้งบิตเม็กซ์ คาดการณ์ตั้งแต่ต้นปีว่า ตลาดการเงินจะได้รับแรงกดดันจากการเจรจาเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐ พร้อมมองว่า “เมื่อเกิดแรงกระแทกทางเศรษฐกิจในช่วงแรก ฝ่ายบริหารของทรัมป์อาจกดดันให้เฟดเพิ่มสภาพคล่อง ซึ่งแม้บิตคอยน์อาจต้องเผชิญภาวะปรับฐาน แต่ก็มีโอกาสฟื้นตัวแรง”

แม้เฟดยังคงใช้นโยบายระมัดระวัง อัตราเงินเฟ้อก็ยังสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ในเดือนกุมภาพันธ์ขยายตัว 0.5% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และคิดเป็น 3% ต่อปี ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เฟดยืดระยะเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจยังแสดงสัญญาณอ่อนแอลง ความกดดันให้เฟดต้องปรับลดดอกเบี้ยก็จะเพิ่มขึ้น

ในอนาคต ทิศทางราคาบิตคอยน์อาจขึ้นอยู่กับกระแสสภาพคล่องทั่วโลก M2 ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สภาพคล่องของตลาด กำลังแสดงสัญญาณขยายตัว และหากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไป อาจส่งผลดีต่อสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวม ข้อมูลในอดีตเผยว่าราคาบิตคอยน์มักตอบสนองต่อการขยายตัวของสภาพคล่องภายใน 60 วัน

เจฟฟ์ พาร์ค(Jeff Park) หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์อัลฟ่าแห่งบิตไวส์(Bitwise) เชื่อว่า “บิตคอยน์อาจเผชิญแรงเทขายในระยะสั้น แต่คลื่นกระแสสภาพคล่องทั่วโลกในปีนี้จะเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งที่สุด”

แม้บิตคอยน์ยังอยู่ในช่วงปรับฐาน แต่หากกระแสสภาพคล่องทั่วโลกเริ่มกระเตื้องขึ้น โอกาสในการฟื้นตัวย่อมเพิ่มขึ้น นักวิเคราะห์คาดว่า ตลาดอาจกลับสู่ภาวะขาขึ้นในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งขณะนี้ นักลงทุนกำลังจับตานโยบายของเฟดและแนวโน้มความเคลื่อนไหวของสภาพคล่องทั่วโลกหลังจาก ‘แรลลี่ทรัมป์’ สิ้นสุดลง

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1