ดีทีซีซี(DTCC) ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันหลักด้านการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ เตรียมนำ ‘โครงการโทเค็นสินทรัพย์’ มาประยุกต์ใช้อย่างจริงจัง เริ่มต้นด้วยการนำพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ขึ้นสู่ระบบบล็อกเชนในรูปแบบของ ‘โทเค็น’ เพื่อต่อยอดไปสู่การโทเค็นทรัพย์สินรูปแบบอื่น ๆ บนเครือข่ายบล็อกเชนต่อไป
เมื่อวันที่ 24 ดีทีซีซีประกาศความร่วมมือกับบริษัทฟินเทคด้านบล็อกเชนอย่างดิจิทัลแอสเซต(Digital Asset) โดยมีแผนนำพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ บางส่วนที่เก็บไว้โดยบริษัทในเครืออย่างดีพอซิทอรีทรัสต์คอมพานี(Depository Trust Company) มาโทเค็นบน ‘แคนตันเน็ตเวิร์ก(Canton Network)’ ซึ่งเป็นเครือข่ายบล็อกเชนแบบส่วนตัวที่พัฒนาโดยดิจิทัลแอสเซต
แฟรงก์ ลาซาลา(Frank LaSalla) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของดีทีซีซีกล่าวว่า โครงการนี้สะท้อนให้เห็นว่า ‘โทเค็นของสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงและจับต้องได้’ กำลังจะถูกนำมาใช้งานจริงในตลาด พร้อมระบุว่า เริ่มจากพันธบัตรของรัฐบาล และต่อไปจะโทเค็นทรัพย์สินหลากหลายประเภทที่ดีทีซีซีรองรับอยู่ บนเครือข่ายต่าง ๆ
ดีทีซีซีถือเป็นสถาบันโครงสร้างพื้นฐานหลักของตลาดการเงินในสหรัฐฯ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางด้านการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ โดยในปีที่ผ่านมา ระบบภายใต้การดูแลขององค์กรสามารถดำเนินธุรกรรมหลักทรัพย์ได้รวมมูลค่า 3.7 ควอดริลเลียนดอลลาร์ หรือราว 5,443 เควนทริลเลียนวอน สะท้อนขนาดและความสำคัญของระบบดังกล่าวในตลาดทุนโลก
การที่ดีทีซีซี ซึ่งเป็นองค์กรหลักในตลาดดั้งเดิม เลือกเริ่มต้นโครงการโทเค็น ถือเป็นสัญญาณว่าตลาดสินทรัพย์แบบดั้งเดิมเริ่มเปิดรับบล็อกเชนในฐานะเทคโนโลยีสำคัญ และการเริ่มต้นด้วยสินทรัพย์อย่างพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมีความมั่นคงและสภาพคล่องสูง ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการถูกยอมรับจากตลาด
โครงการนี้จะดำเนินการผ่านระบบบล็อกเชนแบบ ‘มีใบอนุญาต (Permissioned Blockchain)’ ซึ่งช่วยลดความกังวลในด้านข้อกำกับและความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ยังมีการจับตามองว่าในอนาคตระบบเหล่านี้อาจเชื่อมโยงกับบล็อกเชนแบบสาธารณะ (Public Blockchain) เพื่อเปิดโอกาสในการใช้งานที่หลากหลายยิ่งขึ้น
‘การโทเค็นทรัพย์สิน’ หรือ Tokenization เป็นแนวคิดที่นำ ‘ทรัพย์สินจริง’ มาแปลงเป็นโทเค็นดิจิทัลบนบล็อกเชน นับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่สถาบันการเงินทั่วโลกเริ่มให้ความสนใจ โดยเฉพาะเมื่อต้องการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการชำระราคา ความโปร่งใส และการเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ
*ความคิดเห็น*: ความเคลื่อนไหวของดีทีซีซีสะท้อนถึงจุดเปลี่ยนของตลาดการเงินสหรัฐฯ ที่กำลังเปิดรับนวัตกรรมบล็อกเชนอย่างค่อยเป็นค่อยไป และอาจเป็นการวางรากฐานสำคัญเพื่อให้เทคโนโลยีนี้ถูกรวมเข้ากับโครงสร้างหลักของระบบเศรษฐกิจในอนาคต
ความคิดเห็น 0