เวิลด์ ลิเบอร์ตี ไฟแนนเชียล(World Liberty Financial หรือ WLFI) ได้นำเสนอแผนใช้งานโทเคนจากคลังของตนเองมูลค่า 120 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.77 หมื่นล้านบาท) เพื่อขยายระบบนิเวศของเหรียญเสถียร USD1 ที่บริษัทพัฒนา โดยจะมีการจัดสรรโทเคนประมาณ 5% ของคลังทั้งหมด เพื่อใช้เป็นรางวัลในการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับผู้ให้บริการการเงินแบบรวมศูนย์(CeFi) และการเงินแบบกระจายอำนาจ(DeFi)
ประเด็นหลักของข้อเสนอครั้งนี้อยู่ที่การนำโทเคนที่ WLFI ถืออยู่มาใช้ขับเคลื่อนการยอมรับใน USD1 อย่างเป็นระบบ ด้วยเป้าหมายเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับมูลค่าและอิทธิพลของบริษัทเอง นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา USD1 เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยสามารถดึงดูดเงินฝากรวม(TVL) ได้ถึง 2.7 พันล้านดอลลาร์ (ราว 3.99 หมื่นล้านบาท) ภายใน 6 เดือน ซึ่งบริษัทมองว่าเกิดจากการสนับสนุนของชุมชนและการใช้งานจริงในเชิง On-chain ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
WLFI วางแผนสนับสนุนให้ USD1 ถูกใช้งานในบริการบนบล็อกเชนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการฝาก-ถอน การจับคู่ซื้อขาย หรือการใช้งานในระบบฝากทรัพย์ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร CeFi และ DeFi ที่สำคัญ โดยจะมีการให้โทเคน WLFI เป็นรางวัล เพื่อกระตุ้นการนำไปใช้งาน บริษัทจะเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ได้รับรางวัลและวิธีการดำเนินการผ่านเว็บไซต์และช่องทางการสื่อสารแบบ On-chain อย่างโปร่งใส
USD1 ถือเป็นผลิตภัณฑ์หลักของ WLFI การเพิ่มการใช้งานจะส่งผลต่อเนื่องถึงการเติบโตของระบบนิเวศบริษัท เช่น การขยายบริการที่ดำเนินการผ่านระบบการกำกับดูแลของ WLFI การเพิ่มโปรแกรมสนับสนุนสภาพคล่อง และกิจกรรมเชิงนิเวศอื่น ๆ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ถือโทเคน WLFI มีบทบาทมากขึ้นในการกำหนดนโยบาย การพัฒนาโปรดักต์ โครงสร้างรางวัล และกลยุทธ์เชื่อมโยงระหว่างเครือข่าย
ข้อเสนอนี้ขณะนี้อยู่ระหว่างการลงคะแนนเสียงโดยชุมชน โดยผู้ถือโทเคน WLFI จะมีสิทธิ์ตัดสินใจว่าควรเดินหน้าแผนการใช้โทเคนคลังจำนวน 5% นี้หรือไม่ นี่ไม่ใช่เพียงข้อเสนอด้านการเงิน แต่ยังเป็นแนวทางในระดับกลยุทธ์ที่อาจกำหนดทิศทางการเติบโตของโปรเจกต์ในระยะยาว ความเห็นของชุมชนในครั้งนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ในอีกแง่หนึ่ง WLFI คาดว่าแผนการนี้จะช่วยให้ USD1 สามารถไล่ตามเหรียญคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแม้จะเติบโตเร็ว แต่ USD1 ยังมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 2.7 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ PYUSD จากเพย์พาลมีมูลค่ามากกว่า 3.86 พันล้านดอลลาร์ (ราว 5.7 หมื่นล้านบาท) การลงทุนจากคลังโทเคนดังกล่าวจึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ WLFI ใช้ลดช่องว่างนี้
ตัวอย่างที่น่าสนใจคือโปรเจกต์ BUILDon บนเครือข่าย BNB Chain ซึ่งเชื่อมโยงกับสภาพคล่องของ USD1 และกลายเป็นหนึ่งในมีมคอยน์ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดถึง 90% ของตลาดมีมคอยน์ในช่วงเดือนพฤษภาคม ทำให้นักลงทุนรายแรกได้รับผลตอบแทนอย่างมีนัยสำคัญ เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า USD1 มีศักยภาพไม่ใช่แค่เป็นเหรียญเสถียร แต่ยังสามารถเป็นสินทรัพย์พื้นฐานด้านสภาพคล่องได้จริง
*ความคิดเห็น: กลยุทธ์ของ WLFI ในการขับเคลื่อน USD1 นี้นับว่าฉลาดและมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านการมีส่วนร่วมของชุมชนและการใช้งานจริง เป็นตัวอย่างของการบริหารโทเคนคลังที่สร้างประโยชน์ให้ระบบนิเวศโดยรวมอย่างแท้จริง*
ความคิดเห็น 0