ตลาดบิตคอยน์(BTC) กำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ หลังจากตัวชี้วัดออนเชนและข้อมูลจากตลาดอนุพันธ์ต่างชี้ให้เห็นว่า ‘แรงขับเคลื่อนจากฝั่งอุปสงค์’ เริ่มอ่อนแรงลง ส่งผลให้มีแนวโน้มสูงที่สถานการณ์จะเปลี่ยนเป็น ‘ตลาดหมี’ ในเชิงโครงสร้าง
แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลอย่างคริปโตเควนต์(CryptoQuant) รายงานว่า แรงหนุนจากการซื้อสะสมในรอบนี้ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2023 เริ่มอ่อนกำลังลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะแรงซื้อที่เคยผลักดันราคาในสามจุดหลัก ได้แก่ การอนุมัติ ETF บิตคอยน์แบบสปอตในสหรัฐ, ความคาดหวังเชิงบวกต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดี และการที่บริษัทต่างๆ เพิ่มการถือครองบิตคอยน์ — ล้วนชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม
คริปโตเควนต์ชี้ว่า เหตุดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับรอบก่อนหน้าที่แรงซื้อจำกัดนำไปสู่การตั้งจุดสูงสุดของราคา ก่อนเกิดการปรับฐาน โดยแม้จะมีปัจจัยหนุนจากฝั่งอุปทาน เช่น การลดลงคราวละ 4 ปีของบิตคอยน์ (halving) แต่ทิศทางในตลาดในระยะยาวล้วนถูกกำหนดโดย ‘อุปสงค์’ เป็นหลัก
‘สัญญาณลบ’ เริ่มชัดเจนในกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่และสถาบันเช่นกัน โดยในไตรมาส 4 ของปี 2025 กองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอตในสหรัฐได้เปลี่ยนจากการซื้อสุทธิเป็น ‘ขายสุทธิ’ ลดการถือครองลงประมาณ 24,000 BTC เทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2024 ที่มีลักษณะตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งจำนวนที่อยู่กระเป๋าเงินที่ถือครอง 100–1,000 BTC ซึ่งเชื่อมโยงกับสถาบันและกองทุน ก็เติบโตช้าลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นรูปแบบที่คล้ายกับปลายปี 2021 ก่อนเข้าสู่ภาวะตลาดหมีในปี 2022 เช่นกัน
ในตลาดอนุพันธ์ ความต้องการเสี่ยงของนักลงทุนก็ตกต่ำลงเช่นกัน โดย *ค่าธรรมเนียมฟันดิ้ง(Funding Rate)* ของสัญญาฟิวเจอร์สบิตคอยน์แบบไม่มีวันหมดอายุ ลดลงมาแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ธันวาคม 2023 โดยคริปโตเควนต์ระบุว่า ค่าฟันดิ้งที่ลดลงนี้บ่งชี้ว่านักลงทุนไม่กล้าลงทุนแบบ *เลเวอเรจ* หนักๆ เพื่อเก็งกำไรราคาขาขึ้นอีกต่อไป — สะท้อนความระแวดระวังและความระมัดระวังที่เพิ่มขึ้นในหมู่นักเก็งกำไร
ด้านเทคนิค ราคา *บิตคอยน์(BTC)* ได้ร่วงลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 365 วัน ซึ่งโดยทั่วไปเป็นแนวรับที่สำคัญในระยะยาว การหลุดแนวรับนี้มักถูกตีความว่าเป็น ‘สัญญาณเปิดตลาดหมี’ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาร่วมกับปัจจัยพื้นฐานและข้อมูลเชิงพฤติกรรมในตลาด คริปโตเควนต์ยังระบุด้วยว่า วัฏจักรครั้งนี้ของบิตคอยน์ควรถูกตีความผ่านมุมมอง “ขยายและหดตัวของอุปสงค์” มากกว่าปัจจัยเรื่องซัพพลายล้วนๆ อย่างการลดรางวัลบล็อก
อย่างไรก็ตาม คริปโตเควนต์เสริมว่า อาจไม่จำเป็นต้องคาดหวังว่ารอบ “ขาลง” ที่กำลังเริ่มต้นนี้จะรุนแรงเหมือนในอดีต โดยมีการประเมินว่า *ระดับราคาประมาณ 56,000 ดอลลาร์* (ประมาณ 8.2 ล้านบาท) ซึ่งเป็นระดับ ‘ราคาที่เกิดขึ้นจริง (Realized Price)’ อาจกลายเป็น *แนวรับสำคัญ* ของรอบนี้ ซึ่งคิดเป็นการปรับตัวลดลงประมาณ 55% จากจุดสูงสุดครั้งล่าสุด — หนึ่งในการปรับฐานที่ตื้นที่สุดในประวัติศาสตร์ของบิตคอยน์
ขณะเดียวกัน แนวรับรองจากระดับปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ *70,000 ดอลลาร์* (ราว 10.3 ล้านบาท) ซึ่งเป็นจุดที่นักวิเคราะห์จับตามากเป็นพิเศษ เพราะการตอบสนองของนักลงทุนต่อระดับราคานี้จะมีบทบาทสำคัญต่อทิศทางในระยะกลางถึงระยะยาวของตลาด
‘ความคิดเห็น’: ช่วงนี้อาจไม่ใช่เวลาที่เหมาะสำหรับการเปิดสถานะเก็งกำไรระยะสั้นอย่างรุนแรง แต่เป็นช่วงที่ควรจับตาปัจจัยเชิงโครงสร้างของตลาดให้รอบด้าน ก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง *บิตคอยน์(BTC)* หรือ *อีเธอเรียม(ETH)* เพิ่มเติม
ความคิดเห็น 0