บิตคอยน์(BTC) เสถียรมากขึ้น! บิตไวส์เผยความผันผวนต่ำกว่าเอ็นวิเดีย(NVDA) ในปี 2025

บิตคอยน์(BTC)ได้รับการประเมินว่ากำลังพัฒนาเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงมากขึ้นในปีนี้ โดยบริษัทด้านการลงทุนคริปโตอย่างบิตไวส์(Bitwise)เปิดเผยว่า ระดับ ‘ความผันผวน’ ของบิตคอยน์ในปี 2025 มีแนวโน้มต่ำกว่าหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่หลายตัว โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเอ็นวิเดีย(NVDA) ซึ่งพบความแตกต่างอย่างชัดเจน ปัจจัยสำคัญที่ลดความผันผวนนี้ มาจากกระแสเงินทุนจากสถาบันและการเปิดตัวกองทุน ETF แบบซื้อขายจริง

จากข้อมูลของบิตไวส์ ความผันผวนของบิตคอยน์ในปี 2025 ถูกประเมินที่ระดับ 68% ขณะที่ราคาหุ้นของเอ็นวิเดียในช่วงเวลาเดียวกันมีความผันผวนสูงถึง 120% นำไปสู่ข้อสรุปว่า บิตคอยน์เริ่มมีความเสถียรมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ทางเลือก ตัวอย่างเช่น ราคาบิตคอยน์ในปีนี้เคลื่อนไหวจากระดับต่ำสุดประมาณ 75,000 ดอลลาร์ไปยังระดับสูงสุดที่ 126,000 ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 68% ขณะที่หุ้นของเอ็นวิเดียดีดตัวจาก 94 ดอลลาร์ไปถึง 207 ดอลลาร์ คิดเป็นการเปลี่ยนแปลงมากกว่า 120%

ความผันผวนที่ลดลงสะท้อนให้เห็นถึงลักษณะที่เปลี่ยนแปลงของตลาดคริปโต โดยเฉพาะในแง่ของโครงสร้างนักลงทุน บิตไวส์เน้นย้ำผ่านโพสต์ใน X (เดิมคือทวิตเตอร์) ว่า *“การเข้ามาของนักลงทุนสถาบันผ่านกลไกอย่าง ETF ซื้อขายจริง กำลังเปลี่ยนโฉมตลาดบิตคอยน์ให้มีเสถียรภาพมากขึ้น”* บทวิเคราะห์ชี้ว่า จากตลาดที่เคยถูกขับเคลื่อนโดยนักลงทุนรายย่อย ปัจจุบันกลายเป็นตลาดที่มีเงินทุนระยะยาวไหลเข้าสม่ำเสมอ ทั้งนี้ บิตไวส์ระบุว่า *“บิตคอยน์กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วสู่อัตลักษณ์ใหม่ของสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงมากขึ้น”*

นอกจากนี้ บิตไวส์ยังคาดการณ์ ‘สถานการณ์ขาขึ้น’ ของบิตคอยน์ในช่วงต่อไป โดยเฉพาะในปี 2026 ซึ่งมีโอกาสที่สินทรัพย์ดิจิทัลนี้จะหลุดออกจากวัฏจักร 4 ปีเดิม และอาจสร้างสถิติราคาสูงสุดใหม่ ความหวังนี้ตั้งอยู่บนรากฐานของ *การลดลงของอัตราดอกเบี้ย, เหตุการณ์ Halving*, และรูปแบบตลาดที่เริ่มแตกต่างจากรูปแบบ ‘Boom-Bust’ ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

บิตไวส์ตั้งข้อสังเกตว่า สถาบันการเงินระดับโลกอย่างซิตี้กรุ๊ป, มอร์แกนสแตนลีย์, เวลส์ฟาร์โก และเมอร์ริลลินช์ กำลังแสดงสัญญาณสนใจตลาด ETF แบบซื้อขายจริง ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มสัดส่วนบิตคอยน์ในพอร์ตการลงทุนของนักลงทุน สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านของคริปโตจากสินทรัพย์ทางเลือกสู่สถานะสินทรัพย์หลักในตลาดทุน

อย่างไรก็ตาม ตลาดก็ยังเผชิญแรงกดดันจาก *การขายของนักลงทุนระยะยาว* K33 รีเสิร์ชตั้งข้อสังเกตว่า ตั้งแต่ต้นปี 2023 มีบิตคอยน์กว่า 1.6 ล้านเหรียญ ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกถือครองมากกว่า 2 ปี เริ่มกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง คิดเป็นมูลค่าราว 140,000 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ข้อมูลจากคริปโตควอนต์(CryptoQuant) แสดงให้เห็นว่า บิตคอยน์ที่ถูกถือครองมากกว่า 1 ปี มูลค่าประมาณ 300,000 ล้านดอลลาร์ ได้กลับเข้าสู่ตลาดในปี 2025 และในช่วง 30 วันที่ผ่านมา พฤติกรรม ‘ขาย’ จากผู้ถือครองระยะยาวอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี

คริส นิวเฮาส์(Chris Newhouse) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของเออร์โกเนียแสดง *ความเห็น* ว่า “การขายต่อเนื่องจากนักลงทุนระยะยาว ก่อให้เกิดแรงกดดันที่ค่อย ๆ ปรากฏเหมือนระบบซึมของราคา ซึ่งยากจะฟื้นตัวได้ในระยะสั้น”

ในขณะที่บิตคอยน์ลดลงอย่างต่อเนื่อง หุ้นเทคโนโลยีอย่างเอ็นวิเดียกลับปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 27% นับตั้งแต่ต้นปี สวนทางกับบิตคอยน์ที่ร่วงลงราว 8% และต่ำกว่าระดับสูงสุดเดิมที่ 126,000 ดอลลาร์ถึงประมาณ 30% โดยขณะนี้บิตคอยน์มีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 87,113 ดอลลาร์ (ราว 1,288.4 ล้านบาท)

แม้ว่ามักถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันในฐานะ ‘สินทรัพย์เสี่ยง’ แต่ความเคลื่อนไหวของบิตคอยน์และหุ้นเทคโนโลยีกลับสวนทางกันในปีนี้ สะท้อนถึงความเป็นอิสระและลักษณะเฉพาะตัวของตลาดคริปโต *ความคิดเห็น* บ่งชี้ว่า ตลาดคริปโตควรถูกประเมินอย่างแยกต่างหากจากแนวโน้มของหุ้นเทคโนโลยี แม้จะมีการทับซ้อนบ้างด้านการเก็งกำไรและภาคผู้ลงทุนก็ตาม