พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐแบบโทเคน(Tokenized US Treasurys) กำลังกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มสินทรัพย์การเงินจริง (RWA) ที่เติบโตเร็วที่สุดบนบล็อกเชน โดยภายในไม่ถึงสองปี ตลาดโทเคนของตราสารหนี้ที่ได้รับการหนุนหลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ขยายตัวกว่า 50 เท่า สะท้อนความต้องการจากสถาบันการเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในการแสวงหาผลตอบแทนออนเชน
จากข้อมูลของ Token Terminal มูลค่ารวมของตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐแบบโทเคนพุ่งจากระดับต่ำกว่า 200 ล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม 2024 ขึ้นมาแตะเกือบ 7 พันล้านดอลลาร์ในช่วงปลายปี 2025 ซึ่งบ่งบอกถึง‘ความเร่งในการยอมรับตราสารหนี้บนระบบบล็อกเชน’ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางในหมู่นักลงทุนสถาบัน
ศูนย์กลางของกระแสการเติบโตนี้คือ USD Institutional Digital Liquidity Fund (BUIDL) ของแบล็คร็อก(BlackRock) ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นผลิตภัณฑ์หลักของตลาดพันธบัตรแบบโทเคน โดยกองทุนดังกล่าวใช้บล็อกเชนในการให้ผลตอบแทรรายวันจากพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้น พร้อมระบบการชำระธุรกรรมแบบออนเชน ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดระบุว่า BUIDL มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์
ผลิตภัณฑ์เด่นรายอื่นในตลาดนี้ ได้แก่ USD Coin Yield (USYC) จากเซอร์เคิล(Circle), US Treasury Bill Token (USTB) จากซูเปอร์สเตต(Superstate) และ Ondo Short-Term US Government Bond Fund (OUSG) จากออนโดไฟแนนซ์(Ondo Finance) ซึ่งทั้งหมดนี้ออกแบบภายใต้โครงสร้างกองทุนที่ได้รับการกำกับดูแล เพื่อเปิดทางสำหรับการ‘เข้าถึงตราสารหนี้ฉบับโทเคน’ของรัฐบาลสหรัฐผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน
ความเหมาะสมของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในการถูกโทเคนไลซ์นั้นอยู่ที่‘ความปลอดภัยที่รับประกันโดยรัฐบาล’ ผสานกับ‘ความคล่องตัวในการชำระธุรกรรมด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน’ ถือเป็นทางเข้าสู่โลกการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ที่ได้รับการควบคุมอย่างเหมาะสม
Cointelegraph รายงานว่า‘การยอมรับจากสถาบัน’ต่อโทเคนพันธบัตรรัฐบาลมีแนวโน้มเติบโตอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในการใช้งานเพื่อ ‘การหักกลบลบหนี้’ และ ‘การชำระทุนประกัน’ สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมต่างมองว่าตราสารโทเคนเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารเงินทุน พร้อมกับรักษาระดับความเสี่ยงให้ต่ำ
หนึ่งในกรณีตัวอย่างคือ ดีบีเอส (DBS) ธนาคารใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามสินทรัพย์ ได้ทดลองลงทุนในกองทุนตลาดเงินแบบโทเคน รวมถึงตราสารหนี้รัฐบาลผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อ‘การบริหารสินทรัพย์ค้ำประกันและระบบการชำระเงินบนเชน’
การเติบโตของพันธบัตรแบบโทเคนยังเป็นส่วนหนึ่งของการขยายตลาดโทเคนในภาพรวม โดยข้อมูลจาก RedStone ระบุว่า กลุ่มสินเชื่อภาคเอกชนคือกลุ่มสินทรัพย์จริงออนเชนที่เติบโตเร็วที่สุด เนื่องจากให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนแบบเดิม
‘ความคิดเห็น’: การเร่งตัวของตลาดตราสารหนี้แบบโทเคนสะท้อนการเปลี่ยนผ่านทางการเงินระดับใหญ่ และอาจกลายเป็นสะพานเชื่อมระหว่างการเงินกระแสหลักกับโลกคริปโตในระยะยาว
ความคิดเห็น 0