ซานติอาโก โรเอล ซานโตส ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Inversion Capital เตือนว่าการที่แพลตฟอร์มทางการเงินเร่งเปิดตัวฟีเจอร์ ‘ตลาดทำนายผล’ หรือ prediction market อาจนำไปสู่การสูญเสียผู้ใช้งานในเชิงโครงสร้าง โดยเปรียบการใช้งานผลิตภัณฑ์ลักษณะนี้ว่าเหมือนเข้า ‘คาสิโน’ ที่ยิ่งอยู่นาน ความเสี่ยงต่อการ ‘ถูกล้างพอร์ต’ ก็ยิ่งสูงขึ้น
ซานโตสแสดงความเห็นนี้ผ่านบล็อกส่วนตัวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเขาระบุว่าแม้จะเชื่อในแนวคิดพื้นฐานของ ‘ตลาดทำนายผล’ แต่การนำมาใช้ในแอปเทรดทั่วไปอย่างโรบินฮู้ด อาจกลายเป็นดาบสองคม เพราะจะผลักให้ผู้ใช้เข้าสู่สภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการหมดตัวจากการเก็งกำไรได้เร็วยิ่งขึ้น “ปัญหาของผลิตภัณฑ์ลักษณะคาสิโนไม่ใช่แค่เรื่องการขาดทุน แต่คือความเร่งเร้าในการสูญเสียผู้ใช้งาน” เขากล่าว พร้อมเสริมว่า “ผู้ใช้ที่ถูกล้างพอร์ตคือนิยามของ ‘ศูนย์ค่าทางเศรษฐกิจ’”
โรบินฮู้ดเริ่มหันมามุ่งเน้นตลาดทำนายผลอย่างจริงจังในปี 2025 โดยร่วมมือกับ Kalshi ตั้งแต่เดือนมีนาคม ต่อยอดจากกลุ่มแพลตฟอร์มคริปโตชื่อดังอย่างคอยน์เบส(Coinbase) และเจมิไน(Gemini) ที่กำลังจะเปิดตัวฟีเจอร์นี้เช่นกัน ผ่านผลิตภัณฑ์ที่ให้ผู้ใช้เดิมพันกับเหตุการณ์ในชีวิตจริง เช่น การเลือกตั้งหรือการแข่งขันกีฬา
ซานโตสมองว่าการนำเสนอทางเลือกแบบนี้อาจบดบังเป้าหมายหลักของแอปการเงิน ที่ต้องการเป็นบริการที่เข้าถึงง่ายสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป เขาย้ำว่าต้นแบบความสำเร็จของโรบินฮู้ดคือ ‘ความเรียบง่ายและความทันสมัย’ ที่โดนใจผู้เริ่มต้นใช้งานการเงินดิจิทัล ทว่า “เมื่อผู้ใช้โตขึ้น โอกาสทางธุรกิจก็คือการเติบโตไปพร้อมกัน ไม่ใช่ดึงมูลค่าสูงสุดจากช่วงเวลาการเก็งกำไรสูงสุด” เขาระบุ
ปัจจุบันระบบ prediction market บนบล็อกเชนกำลังได้รับความนิยม โดยเฉพาะช่วงการเลือกตั้งในสหรัฐเมื่อปี 2024 และยักษ์คริปโตอย่างคอยน์เบสก็ประกาศเมื่อวันพุธว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้ในแอปแบบ all-in-one ที่กำลังพัฒนา ร่วมกับ Kalshi ขณะที่บริษัทในเครือของเจมิไนก็เพิ่งคว้าใบอนุญาตของสหรัฐสำหรับให้บริการ ‘สัญญาเหตุการณ์’ (event contracts)
แม้ตัวเลขรายได้จากตลาดทำนายผลอาจดูดีในระยะสั้น แต่ซานโตสเตือนว่า “ผลระยะยาวอาจกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้แอปการเงินไม่มั่นคง” พร้อมแนะว่าซูเปอร์แอปทางการเงินควรจัดการกับ ‘การสูญเสียผู้ใช้งาน’ ให้เหมือนจัดการกับความเสี่ยงระดับสูง เพื่อปกป้องฐานผู้ใช้และสร้างความแข็งแกร่งในอนาคต
“ถ้าให้ผมเลือก ผมจะให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้ต้องการจริงเมื่อพวกเขาเติบโตทางการเงิน เช่น บัตรเครดิต, การประกันภัย, และตัวเลือกการออม” ซานโตสบอก “แม้จะดูน่าเบื่อ แต่ข้อมูลชี้ชัดว่าสิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เวิร์ก เพราะมันตอบโจทย์พื้นฐานของชีวิตการเงินในครัวเรือน”
ความคิดเห็น 0