สภาคองเกรสสหรัฐฯ เสนอร่างกฎหมายลดภาระภาษีสำหรับธุรกรรมสเตเบิลคอยน์ขนาดเล็ก และผลตอบแทนจากการสเตก
เมื่อเร็ว ๆ นี้ สมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ ได้เสนอร่างกฎหมายใหม่ที่มีเป้าหมายช่วยลดภาระภาษีสำหรับผู้ใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลในชีวิตประจำวัน โดยเสนอให้ *ยกเว้นภาษีกำไรจากการขายสำหรับธุรกรรมด้วยสเตเบิลคอยน์ที่มีมูลค่าไม่เกิน 200 ดอลลาร์สหรัฐ* และนำเสนอทางเลือกใหม่ในการเลื่อนการจัดเก็บภาษีจากรางวัลการสเตกและการขุดคริปโต
ร่างกฎหมายดังกล่าวเสนอโดย แม็กซ์ มิลเลอร์(Max Miller) จากรัฐโอไฮโอ และสตีเวน ฮอร์สฟอร์ด(Steven Horsford) จากรัฐเนวาดา มีเป้าหมายในการแก้ไข *ประมวลรัษฎากรภายในประเทศของสหรัฐฯ* เพื่อให้ทันกับการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับการชำระเงินรายวัน ร่างกฎหมายระบุว่า *ธุรกรรมสเตเบิลคอยน์มูลค่าไม่เกิน 200 ดอลลาร์ฯ* จะไม่ต้องรับรู้กำไรหรือขาดทุน หากสเตเบิลคอยน์นั้นออกโดยผู้ออกที่ได้รับอนุญาตภายใต้กฎหมาย GENIUS Act, ผูกค่ากับดอลลาร์สหรัฐ และรักษาราคาให้อยู่ในช่วงแคบใกล้ 1 ดอลลาร์ฯ เงื่อนไขเหล่านี้มีไว้เพื่อป้องกันการฉวยประโยชน์
ตามร่างกฎหมาย *ข้อยกเว้นนี้จะไม่ครอบคลุมถึงกรณีที่ราคาสเตเบิลคอยน์หลุดกรอบราคาที่กำหนด* หรือในกรณีที่ผู้ออกเป็นโบรกเกอร์หรือตัวแทนจำหน่าย กระทรวงการคลังยังคงมีอำนาจในการกำหนดกฎเพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีและข้อกำหนดการรายงานเพิ่มเติม
ในอีกด้านหนึ่ง แม้ตลาดคริปโตจะเผชิญแรงขาย แต่บรรดานักลงทุนยังไม่แสดงความกลัวในระดับที่มากพอจะบ่งชี้ว่าราคาลงสู่ *‘จุดต่ำสุดของตลาด’* ได้แล้ว ตามความเห็นของ แม็กซิม บาลาเชวิช(Maksim Balashevich) ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มวิเคราะห์ความรู้สึกตลาดคริปโต Santiment ซึ่งระบุในคลิปวิดีโอบน YouTube ว่า ‘เรายังไม่เห็นสัญญาณแห่งความกลัวอย่างแท้จริงจากนักลงทุนรายย่อย’ บาลาเชวิชคาดว่า บิตคอยน์(BTC) อาจลดลงต่ออีกประมาณ 14.77% จากระดับปัจจุบันที่ 88,350 ดอลลาร์ฯ ไปอยู่ที่ราว 75,000 ดอลลาร์ฯ
ขณะเดียวกัน แมทธิว ครัตเตอร์(Matthew Kratter) นักวิเคราะห์สายแม็กซิมอลลิสต์ของบิตคอยน์ ออกโรงเตือนให้นักลงทุนบิตคอยน์อย่าเพิ่งขายเหรียญเพื่อไปลงทุนในทองคำ แม้ราคาทองคำจะพุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับกว่า 4,300 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ก็ตาม โดยกล่าวว่า *บิตคอยน์มีคุณสมบัติทางการเงินที่เหนือกว่าทองคำในระยะยาว* เนื่องจากมีอุปทานจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ พกพาง่าย แบ่งย่อยละเอียดได้ถึงเก้าเลขทศนิยม และตรวจสอบความถูกต้องได้รวดเร็ว
“ทองคำเพิ่มปริมาณปีละ 1–2% มานานหลายทศวรรษ จนนำไปสู่การที่ปริมาณทองคำเพิ่มขึ้นเท่าตัวทุก ๆ 47 ปี” ครัตเตอร์กล่าว พร้อมเสริมว่า BTC จึงเป็นสินทรัพย์ที่เหมาะสมกว่าในการเก็บรักษามูลค่าเมื่อเทียบกับทอง
ทั้งนี้ บิตคอยน์ยังคงซื้อขายต่ำกว่า 90,000 ดอลลาร์ฯ และมีแนวโน้มเสี่ยงสูญเสียผลกำไรทั้งหมดในปี 2025 ขณะที่ทองคำกลับมีผลตอบแทนเพิ่มขึ้นถึงกว่า 67% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
ความคิดเห็น 0