IBIT ของแบล็คร็อกดูดเงิน 25,000 ล้านดอลลาร์ แม้ราคาบิตคอยน์(BTC)ดิ่ง หุ้นส่วนใหญ่ยัง HODL แน่น

กองทุน ETF บิตคอยน์ ‘iShares บิตคอยน์ ทรัสต์(IBIT)’ ของแบล็คร็อก กลายเป็นหนึ่งในกองทุน ETF ที่มีเม็ดเงินไหลเข้าสูงที่สุดในปี 2025 แม้ราคาบิตคอยน์จะยังอยู่ในแนวโน้มขาลง โดยข้อมูลล่าสุดชี้ว่า IBIT มีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิประมาณ 25,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 927,050 ล้านบาท) นับเป็นอันดับ 6 ของกองทุน ETF ทั่วโลกในปีนี้ ซึ่งเป็นกรณีที่ได้รับความสนใจ จากการที่กองทุนนี้ ‘ขาดทุน’ ในขณะที่ยังคงได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุน

เมื่อวันที่ 24 เอริก บัลชูนา(Eric Balchunas) นักวิเคราะห์ ETF อาวุโสของ Bloomberg เปิดเผยผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า IBIT สามารถดึงดูดเงินลงทุนได้ในปริมาณมาก แม้จะมีผลตอบแทนติดลบในรอบปี โดยระบุว่า IBIT เป็นกองทุนเพียงรายเดียวใน 10 อันดับแรกของ ETF ทั่วโลกที่ผลตอบแทนอยู่ในแดนลบ

เมื่อเทียบกับกองทุนทรัพย์สินแบบดั้งเดิม ผลงานของ IBIT ถือว่าสร้างความประหลาดใจอย่างมาก ตัวอย่างเช่น กองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก SPDR Gold Shares(GLD) สร้างผลตอบแทนได้ถึง 64% แต่กลับมีเม็ดเงินไหลเข้าน้อยกว่า IBIT ขณะที่กองทุน S&P500 ของแวนการ์ด (VOO) ขึ้นแท่นอันดับ 1 ด้วยเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิ 145,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 5.38 ล้านล้านบาท)

นักวิเคราะห์ชี้ว่า ‘IBIT ได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนระยะยาว’ โดยเฉพาะกลุ่มอายุมากที่ยึดแนวคิด ‘HODL’ หรือการถือครองบิตคอยน์ในระยะยาว โดยบัลชูนาให้ความเห็นว่า การที่กองทุน ETF บิตคอยน์สามารถเพิ่มทุนได้ถึง 25,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่ผลตอบแทนติดลบ แสดงถึง ‘ศักยภาพมหาศาล’ ของตลาด หากเข้าสู่ช่วงขาขึ้น

เขายังเน้นย้ำว่า ‘นักลงทุนรุ่นเบบี้บูมเมอร์’ มีบทบาทสำคัญในการผลักดันกระแสดังกล่าว และเรียกพฤติกรรมลักษณะนี้ว่า ‘HODL คลินิก’ ซึ่งเป็นการเล่นคำเพื่อบอกว่า นักลงทุนเหล่านี้ยินดีจะถือครองแม้ในช่วงตลาดผันผวน เพื่อมองไปยังโอกาสลงทุนในอนาคต

ในขณะเดียวกัน ตลาด ETF บิตคอยน์ของสหรัฐฯ กลับเผชิญกับการไหลออกของทุน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม บริษัทวิจัย SoSoValue รายงานว่า ETF บิตคอยน์ในสหรัฐฯ มีเงินไหลออกสุทธิราว 497 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 17,348 ล้านบาท) ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ โดยในช่วงนั้นราคาบิตคอยน์ลดลงมาที่ระดับ 88,293 ดอลลาร์ ลดลงราว 30% จากจุดสูงสุดที่ 126,080 ดอลลาร์

แม้จะมีภาวะไหลออกในตลาดรวม แต่ IBIT ยังคงรักษาตำแหน่งหนึ่งในกองทุนที่มีเม็ดเงินไหลเข้าสูงที่สุดประจำปี นับว่าเป็น ‘สัญญาณบวก’ ต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะยาว

ความสำเร็จของ IBIT ท่ามกลางแนวโน้มราคาที่ย่ำแย่และสภาวะตลาดที่ผันผวน แสดงให้เห็นชัดเจนว่านักลงทุนส่วนหนึ่งยังคงเชื่อมั่นใน ‘บิตคอยน์’ ในฐานะสินทรัพย์ที่มีอนาคต ซึ่งอาจกลายเป็นปัจจัยผลักดันให้สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมอย่างแบล็คร็อก ขยายบทบาทในตลาดคริปโตผ่าน ETF มากยิ่งขึ้น ความเคลื่อนไหวนี้ยังเสริมภาพของการ ‘เข้าสู่กระแสหลัก’ ของการลงทุนในคริปโต โดยเฉพาะรูปแบบ ETF ที่ปรับตัวเข้ากับนักลงทุนทั่วไปได้มากขึ้นในปัจจุบัน

‘IBIT’ จึงไม่เพียงแค่เป็นกองทุนบิตคอยน์ แต่กลายเป็นตัวชี้วัดสำคัญของพัฒนาการในโลกการเงินที่ ‘คริปโตกับการลงทุนดั้งเดิม’ เดินมาใกล้กันมากยิ่งขึ้นแล้วในปี 2025