USDe ของ Ethena ประสบปัญหาการหลุดมูลค่าที่ตรึงไว้ช่วงสั้น ๆ หลังจากเหตุการณ์การขายที่รุนแรงเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม จนส่งผลให้ตลาดคริปโตทั่วโลกเสียหายอย่างหนัก โดยข้อมูลจาก 10x Research ระบุว่า การเทขายในวันนั้นเป็นจุดเปลี่ยนของตลาด เข้าสู่ช่วงลดเลเวอเรจอย่างจริงจัง มูลค่าตลาดคริปโตสูญหายไปกว่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 30% ของมูลค่ารวมในขณะนั้น
Ethena USDe ซึ่งเป็นเหรียญดอลลาร์สังเคราะห์ที่ใช้กลไกหลักทรัพย์สังเคราะห์และการป้องกันความเสี่ยง แทนที่จะใช้ทุนสำรองในรูปแบบเงินเฟียตแบบดั้งเดิม ก็ได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน โดยนักวิเคราะห์เผยว่านักลงทุนเริ่มหมดความเชื่อมั่นในโครงสร้างดังกล่าว ข้อมูลจาก CoinMarketCap ชี้ว่าเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม มูลค่าตลาดของ USDe อยู่ที่ราว 14.7 พันล้านดอลลาร์ แต่ในเวลาเพียงสองเดือนลดลงเหลือประมาณ 6.4 พันล้านดอลลาร์ สูญเสียเงินทุนสุทธิไปประมาณ 8.3 พันล้านดอลลาร์
ช่วงที่ตลาดร่วงหนัก USDe เคยหลุดราคาตรึงร่วงลงไปถึงราว 0.65 ดอลลาร์บน Binance โดย กาย ยัง(Guy Young) ผู้ก่อตั้ง Ethena Labs ให้ข้อมูลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดจากปัญหาในตัวโปรโตคอลหรือกลไกค้ำประกัน แต่เป็นปัญหาที่เกิดจากระบบป้อนข้อมูลภายในของ Binance เอง เขายืนยันว่า ฟังก์ชันการสร้างและแลกคืน USDe ยังคงดำเนินการได้ตามปกติ โดยมีการไถ่ถอนมูลค่าสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมงผ่านแพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) สำคัญหลายแห่ง ขณะที่ราคาตลาดในที่อื่นยังเบี่ยงเบนเพียงเล็กน้อย
ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ USDe ซื้อขายอยู่ที่ราคา 0.9987 ดอลลาร์ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap ขณะที่เหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมถือเป็นการชำระบัญชีครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดคริปโต โดยข้อมูลจาก CoinGlass เผยว่า มีการชำระบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 19 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่าสัญญาเปิดตกลงไปอีก 65 พันล้านดอลลาร์
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว กิจกรรมของตลาดคริปโตโดยรวมก็ลดลงอย่างชัดเจน ปริมาณการเทรดโดยรวมหดตัวลงประมาณ 50% ขณะที่กองทุน ETF บิตคอยน์(BTC) แบบสปอตที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกาก็เผชิญกระแสเงินทุนไหลออกสุทธิมากถึง 5 พันล้านดอลลาร์ตั้งแต่ช่วงปลายตุลาคม
10x Research วิเคราะห์ว่า ความอ่อนแอของตลาดรอบนี้ไม่ได้มีต้นตอมาจากนักลงทุนรายย่อย แต่เป็นการถอนตัวโดยเจตนาของเงินทุนจากภาคการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล *คำ* ความเชื่อมั่นและเลเวอเรจหดหาย บิตคอยน์จึงเริ่มเคลื่อนไหวอย่างแยกขาดจากหุ้นและทองคำ กลายเป็นสินทรัพย์เสี่ยงแบบเดี่ยวมากกว่าจะใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากสภาวะเศรษฐกิจตามแบบเดิม
*ความคิดเห็น*: เหตุการณ์หลุดราคาในระยะสั้นของ USDe อาจไม่ใช่สัญญาณของความล้มเหลวในโปรโตคอล แต่เป็นจุดเตือนว่าโครงสร้างใหม่ ๆ ที่ไม่ยึดโยงกับระบบการเงินแบบดั้งเดิม ยังคงต้องเผชิญแรงทดสอบจากทั้งความผันผวนและความเชื่อมั่นจากผู้ใช้อยู่ตลอดเวลา
ความคิดเห็น 0