ราคาของบิตคอยน์(BTC)ยังคงผันผวน ขณะที่แรงขายจากกลุ่มผู้ถือครองระยะยาว(LTH) เริ่มลดลงอย่างมีนัยสำคัญ บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของ *ภาวะตลาดและความเชื่อมั่นของนักลงทุน* แม้บิตคอยน์เคยพยายามพุ่งทะลุแนวต้านที่ระดับ 90,000 ดอลลาร์ แต่หลังจากดีดตัวขึ้นช่วงสั้นในวันจันทร์ ราคากลับเปลี่ยนทิศทางเป็นขาลง อย่างไรก็ตาม มีมุมมองที่ว่า *ระยะการกระจาย(distribution phase)* อาจเข้าสู่ช่วงสิ้นสุดแล้ว
นักวิเคราะห์จากแพลตฟอร์มข้อมูลออนเชนอย่าง *CryptoQuant* ที่ใช้ชื่อว่า *ดาร์กโพสต์(Darkfost)* ให้ข้อมูลว่า กิจกรรมการขายของผู้ถือครองรายใหญ่ระยะยาวกำลังชะลอตัวลง สวนทางกับความเชื่อที่ว่ากลุ่มนี้กำลังเทขายอย่างหนัก “ข้อมูลจริงชี้ให้เห็นถึงการลดลง ไม่ใช่การเพิ่มขึ้นของแรงขายจากผู้ถือระยะยาว” เขาระบุ โดยปกติแล้ว กลุ่มนี้คือผู้ที่ถือครองบิตคอยน์เกิน 6 เดือน ในขณะที่ผู้ถือครองระยะสั้นจะอยู่ในช่วงต่ำกว่า 6 เดือน
ดาร์กโพสต์ได้ทำการปรับข้อมูลทางสถิติเพื่อกรองข้อมูลจากโอนย้ายจำนวน 800,000 BTC จากแพลตฟอร์ม *คอยน์เบส(Coinbase)* เพื่อให้สะท้อนการเคลื่อนไหวที่แท้จริงของนักลงทุน ผลลัพธ์จาก *ดัชนี “การเปลี่ยนแปลงปริมาณถือครอง 30 วัน (LTH 30-day supply change)”* หลังจากปรับตามข้อมูลของคอยน์เบสเผยว่าตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม เป็นต้นมา สัญญาณของ ‘ช่วงการกระจาย’ เริ่มชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด
โดยในช่วงเดือนที่ผ่านมา มีเงินไหลเข้าสู่กระเป๋าบิตคอยน์ของกลุ่มผู้ถือระยะยาวรวมมากกว่า 10,700 BTC หรือประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท แม้ปริมาณจะไม่ได้มาก แต่ *การกลับมาสะสมอีกครั้ง* หลังจากแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นสัญญาณเชิงบวก ดาร์กโพสต์เชื่อว่า รูปแบบนี้เคยเกิดขึ้นก่อนช่วงฟื้นตัวของตลาดหรือช่วงราคาทรงตัวในอดีต
ปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนแปลงของตัวเลข ตัวตนของผู้ถือระยะยาวยังสะท้อน ‘ความเชื่อมั่นที่เหนียวแน่น’ ต่อระบบนิเวศของบิตคอยน์ เมื่อพวกเขายุติการเทขายหรอกลับมาถือครองเพิ่มขึ้น อาจส่งผลโดยตรงต่อระดับความเสี่ยงรวมของตลาด ความน่าสนใจคือ แม้แต่ผู้ถือระยะสั้นในปัจจุบันก็ยังไม่รีบเทขายเช่นกัน บ่งบอกว่าความรู้สึก *หวาดกลัว (fear)* ในตลาดเริ่มจางหายไปอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของราคาบิตคอยน์ในวันจันทร์กว่า 3,000 ดอลลาร์ จนแตะระดับ 87,300 ดอลลาร์ หรือกว่า 1.25 ล้านบาทนั้น อาจไม่ยั่งยืน เนื่องจากได้รับแรงหนุนหลักจาก *การใช้เลเวอเรจในตลาดอนุพันธ์* ที่มียอด *Open Interest* เพิ่มขึ้นกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ ดาร์กโพสต์เตือนว่า “แรงซื้อจากการเปิดสถานะเลเวอเรจมักนำไปสู่ราคาที่กระโดดเพียงระยะสั้น เป็นพื้นฐานที่ไม่มั่นคงสำหรับการปรับตัวขึ้นในระยะยาว”
ดังนั้น *ทิศทางที่แท้จริงของบิตคอยน์* จะไม่สามารถชี้วัดจากแค่การเคลื่อนไหวของราคาเพียงวันสองวันได้ แต่ควรพิจารณาการสะสมและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ถือครองระยะยาว หากแนวโน้มการกักเก็บยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง ก็มีโอกาสที่ตลาดจะเข้าสู่ ‘ช่วงฟื้นตัวที่แท้จริง’ ในไม่ช้า
*ความคิดเห็น*: สัญญาณจากผู้ถือบิตคอยน์ระยะยาวอาจเป็นคำใบ้สำคัญว่าตลาดเริ่มใกล้ถึงจุดเปลี่ยน การจับตาตัวชี้วัดอย่าง ‘LTH 30-day supply change’ จึงกลายเป็นเครื่องมือที่นักลงทุนควรไม่มองข้าม
ความคิดเห็น 0