บิตคอยน์(BTC) เผชิญความผันผวนขณะตลาดวอลล์สตรีทเปิดทำการเมื่อวันที่ 4 โดยราคาปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 80,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดที่เพิ่มขึ้นหลังจากสหรัฐฯ เริ่มใช้นโยบายภาษีการค้าใหม่ ซึ่งส่งผลกดดันต่อราคา
ตามรายงานของ Cointelegraph และ TradingView ราคาบิตคอยน์ร่วงลงแตะ 82,037 ดอลลาร์ ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงซื้อขายต่ำกว่าระดับสูงสุดของวันก่อนหน้ากว่า 10,000 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์ชี้ว่า การที่สหรัฐฯ เพิ่มภาษีสำหรับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง นอกจากนี้ การประชุมสุดยอดด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของทำเนียบขาวที่กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 7 ยังไม่มีการเปิดเผยแผนการถือครองคริปโตอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ตลาดยิ่งกังวลมากขึ้น
QCP Capital บริษัทเทรดคริปโตในสิงคโปร์ เปิดเผยว่า "ทรัมป์ได้กลับมาเดินหน้าภาษีกับแคนาดา เม็กซิโก และจีนอีกครั้ง ทำให้ความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าเพิ่มขึ้น" พร้อมเตือนว่า "การร่วงลงของราคาครั้งนี้อาจไม่ใช่แค่การปรับฐานครั้งปกติ แต่เป็นสัญญาณถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก"
แม้ว่าคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) จะประกาศระงับการดำเนินคดีกับบริษัทคริปโตชั่วคราว และยุติการสืบสวนบางส่วน แต่นักลงทุนกลับไม่ตอบสนองในเชิงบวก โดยยังคงกังวลเรื่องผลกระทบของภาษีการค้าต่อบิตคอยน์และตลาดการเงินโดยรวม
อย่างไรก็ตาม บางบริษัทมองว่าอาจมีโอกาสสำหรับการฟื้นตัว โดย Mosaic Asset ชี้ในจดหมายข่าวล่าสุดว่า "ภาวะตลาดที่อยู่ในภาวะขายมากเกินไป และสภาวะจิตวิทยาการลงทุนที่หดหู่สุดขีด อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการเด้งกลับ" นอกจากนี้ยังสังเกตว่า "เดือนมีนาคมมักเป็นช่วงเวลาที่ดัชนี S&P 500 มีแนวโน้มแข็งแกร่ง ซึ่งอาจช่วยเสริมบิตคอยน์ให้กลับมาฟื้นตัวตามสภาวะเศรษฐกิจมหภาค"
ขณะเดียวกัน Julien Bittel จาก Global Macro Investor ให้ความเห็นว่า "สถานการณ์ในขณะนี้สะท้อนผลกระทบจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดในไตรมาสที่สี่ของปีก่อน" และเสริมว่า "เมื่อสภาวะตลาดมหภาคเริ่มเปลี่ยนไปในเดือนมีนาคม ก็มีความเป็นไปได้ที่เราจะเห็นการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป"
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 12 สัปดาห์ ก่อนจะดีดตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง นักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ว่าทิศทางของบิตคอยน์อาจขึ้นอยู่กับแนวโน้มของดอลลาร์
อุตสาหกรรมคริปโตยังจับตาความเคลื่อนไหวของนโยบายภาษีจากฝ่ายบริหารของทรัมป์ รวมถึงประเด็นที่จะถูกหยิบยกในการประชุมสุดยอดคริปโตของทำเนียบขาว ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อแนวโน้มตลาดในอนาคต
ความคิดเห็น 0