รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศกลยุทธ์สำรองสินทรัพย์คริปโตอย่างเป็นทางการ โดยมีอัลต์คอยน์หลักบางสกุลรวมอยู่ในโครงการ
เมื่อวันที่ 5 (เวลาท้องถิ่น) ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยโครงการ ‘การสำรองสินทรัพย์คริปโตของสหรัฐฯ’ พร้อมระบุว่าสินทรัพย์ชุดแรกที่ถูกเลือก ได้แก่ ริปเปิล(XRP), โซลานา(SOL) และคาร์ดาโน(ADA) อย่างไรก็ตาม รายชื่อดังกล่าวได้สร้างความประหลาดใจต่อตลาด เนื่องจากไม่มีบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ซึ่งเป็นสองสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงสุด
ความเคลื่อนไหวนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยในวงการคริปโตว่า ‘เกณฑ์การคัดเลือก’ ของรัฐบาลทรัมป์เป็นอย่างไร ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่า ปัจจัยทางการเมืองหรือการล็อบบี้อาจมีบทบาทสำคัญ และมีความเป็นไปได้ว่าโครงการนี้อาจถูกนำมาใช้เพื่อสนับสนุนสินทรัพย์เฉพาะกลุ่ม มากกว่าการเป็นกลยุทธ์เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง
หลังจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ลุกลาม ทรัมป์ได้ออกแถลงการณ์เพิ่มเติมภายในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา โดยยืนยันว่า บิตคอยน์และอีเธอเรียมจะถูกเพิ่มเข้าไปในโครงการสำรองสินทรัพย์เช่นกัน ข่าวนี้กระตุ้นให้ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นทันที แต่นักลงทุนยังคงระมัดระวัง เนื่องจากความไม่แน่นอนของนโยบายที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต
แม้ว่าจะมีการประกาศครั้งนี้ นักลงทุนคริปโตบางส่วนยังคงตั้งคำถามถึง ‘ประสิทธิภาพ’ ของแผนดังกล่าว โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับสินทรัพย์สำรองแบบดั้งเดิม เช่น น้ำมันหรือธัญพืช ที่มีบทบาทชัดเจนในยามวิกฤตเศรษฐกิจ ตลาดกำลังจับตาดูว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นแค่การเคลื่อนไหวชั่วคราว หรือจะกลายเป็นแนวทางระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐฯ
การที่รัฐบาลทรัมป์เข้ามามีบทบาทในตลาดคริปโตโดยตรง อาจสร้างทั้งโอกาสและความท้าทายให้กับนักลงทุน อย่างไรก็ตาม หากนโยบายนี้ถูกนำมาใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองหรือเป้าหมายระยะสั้น อาจส่งผลกระทบต่อ ‘ความน่าเชื่อถือ’ ของอุตสาหกรรมคริปโตภายในสหรัฐฯ ในระยะยาว ตลาดยังคงรอคอยความชัดเจนเพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางของนโยบายนี้ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดอนาคตของคริปโตในสหรัฐฯ
ความคิดเห็น 0