การเลือกตั้งสหพันธรัฐออสเตรเลียในเดือนพฤษภาคมอาจเป็นปัจจัยเร่งให้สถาบันการลงทุนเข้าสู่ตลาดคริปโตมากขึ้น
เคท คูเปอร์(Kate Cooper) ซีอีโอของ OKX ออสเตรเลีย คาดการณ์ว่า ‘ความชัดเจนของกฎระเบียบคริปโต’ จะเป็นกุญแจสำคัญให้สถาบันการลงทุนกล้าเข้ามาในตลาดมากขึ้น พร้อมหวังว่ากฎหมายที่ถูกพิจารณามากว่าสองปีจะได้รับการบังคับใช้ภายหลังการเลือกตั้งครั้งนี้
ออสเตรเลียเริ่มวางกรอบกฎหมายคริปโตตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2022 โดยมีการหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่มีการออกกฎหมายที่ชัดเจน คูเปอร์มองว่าตลาดกระทิงกำลังดึงดูดนักลงทุนรายย่อย แต่การมีกรอบกฎระเบียบที่แน่นอนจะเป็น ‘ปัจจัยชี้ขาด’ ในการนำสถาบันการเงินเข้าสู่ตลาดคริปโต
ก่อนเข้าร่วม OKX คูเปอร์เคยทำงานให้กับ NAB(เนชันแนลออสเตรเลียบังก์) และเวสต์แพค(Westpac) อีกทั้งยังเป็นอดีตซีอีโอของ Zodia Custody ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการดูแลสินทรัพย์คริปโตสำหรับนักลงทุนสถาบัน โดยเธอเล่าว่าตอนอยู่ที่ NAB อุปสรรคสำคัญที่สุดของสถาบันการเงินที่ต้องการเข้าสู่ตลาดคริปโตคือ ‘ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ’
ออสเตรเลียกำหนดให้มีการเลือกตั้งสหพันธรัฐก่อนวันที่ 17 พฤษภาคม โดยขณะนี้ ‘พรรคร่วมฝ่ายกลาง-ขวา’ กำลังมีคะแนนนำเล็กน้อยเหนือรัฐบาลพรรคแรงงานจากผลสำรวจล่าสุด คูเปอร์เน้นว่ารัฐบาลใหม่ไม่ว่าพรรคใดจะชนะ ควรเร่งสร้าง ‘กรอบกฎระเบียบคริปโตที่ชัดเจน’ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเศรษฐกิจดิจิทัล
ผลสำรวจในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเผยว่า 59% ของผู้ตอบรับพร้อมสนับสนุนผู้สมัครที่มีนโยบายเป็นมิตรกับคริปโต ซึ่งสะท้อนถึงอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนคริปโตในสนามเลือกตั้ง สำหรับแนวโน้มตลาดหลังการเลือกตั้ง คูเปอร์คาดการณ์ว่า ‘กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสเตเบิลคอยน์’ จะขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ หากมีการออกกฎระเบียบที่สนับสนุนอุตสาหกรรมนี้
ปริมาณซื้อขายสเตเบิลคอยน์ทั่วโลกเมื่อปีที่ผ่านมาแตะระดับ 27.6 ล้านล้านดอลลาร์ สูงกว่าปริมาณธุรกรรมรวมของวีซ่า(Visa) และมาสเตอร์การ์ด(Mastercard) ถึง 7.7% คูเปอร์ให้ความเห็นว่า ปี 2024 ถือเป็น ‘ปีที่สเตเบิลคอยน์ก้าวข้ามจากการทดลองมาใช้งานจริง’ และหากออสเตรเลียเร่งออกกฎที่ชัดเจน ก็อาจเปิดทางให้บริการทางการเงินใหม่ๆ ที่ใช้สเตเบิลคอยน์เกิดขึ้นในประเทศ
ปัจจุบัน รัฐบาลออสเตรเลียยังไม่มีแผนถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสำรองคริปโตระดับชาติ ตรงกันข้ามกับทรัมป์ที่เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ประกาศผลักดันให้สหรัฐฯ สร้าง ‘เงินสำรองสินทรัพย์ดิจิทัล’ คูเปอร์ระบุว่า ออสเตรเลียมักใช้แนวทาง ‘เฝ้าระวังและรอคอย’ โดยมองดูว่าประเทศอื่นประสบความสำเร็จอย่างไรก่อนตัดสินใจ แต่ท้ายที่สุดแล้ว รัฐบาลใหม่จะต้องพิจารณาว่า ‘ควรบูรณาการสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ากับเศรษฐกิจของประเทศอย่างไร’
ความคิดเห็น 0