พรรครีพับลิกันผลักดันกฎหมายต่อต้าน 'ดีแบงกิ้ง' หนุนภาคคริปโต

พรรครีพับลิกันในสหรัฐกำลังผลักดันร่างกฎหมายเพื่อยุติพฤติกรรม 'ดีแบงกิ้ง' (Debanking) ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจคริปโตและอุตสาหกรรมอื่น ๆ

เมื่อวันที่ 6 ตามรายงานของ The Wall Street Journal ทิม สก็อตต์ วุฒิสมาชิกจากคณะกรรมาธิการการธนาคารวุฒิสภาสหรัฐ เตรียมเสนอร่างกฎหมายที่ห้ามสถาบันการเงินปฏิเสธการให้บริการแก่ลูกค้าเพียงเพราะ ‘ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง’ กฎหมายฉบับนี้มีที่มาจากฉันทามติระหว่างพรรคการเมืองหลัก หลังจากการไต่สวนเกี่ยวกับ ‘Operation Chokepoint 2.0’ ซึ่งเป็นนโยบายที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามุ่งเป้าไปที่การตัดแหล่งเงินทุนของอุตสาหกรรมที่ถูกพิจารณาว่าเป็นความเสี่ยง

‘ดีแบงกิ้ง’ หมายถึงนโยบายของธนาคารที่ปฏิเสธให้บริการแก่ธุรกิจหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยมี ‘ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง’ เป็นเหตุผล ธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) นิยามว่าความเสี่ยงดังกล่าวเกิดจากปัจจัยเช่น การถูกสื่อโจมตี ค่าฟ้องร้องที่เพิ่มขึ้น หรือการสูญเสียลูกค้า พรรครีพับลิกันโต้แย้งว่านี่อาจเป็นการเลือกปฏิบัติต่ออุตสาหกรรมบางประเภท และกำลังผลักดันให้มีการปฏิรูปในเรื่องนี้

มีสมาชิกพรรครีพับลิกัน 11 คนร่วมเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรในอุตสาหกรรมการเงิน รวมถึงธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง JPมอร์แกน เชส ที่ออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมคริปโตได้รับผลกระทบจากปัญหาดีแบงกิ้งอย่างต่อเนื่อง นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่ามีการดำเนินการเป็นขบวนการเพื่อจำกัดการให้บริการของธนาคารกับบริษัทคริปโต และนี่ถือเป็นส่วนหนึ่งของ ‘Operation Chokepoint 2.0’ ในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา มาร์ก อันเดรสเซน ผู้ร่วมก่อตั้งแอนเดรสเซน โฮโรวิตซ์ เปิดเผยว่ามีผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีและคริปโตมากกว่า 30 รายถูกปฏิเสธบริการจากธนาคาร

ขณะเดียวกัน อเมริกันซีวิลลิเบอร์ตีส์ยูเนียน(ACLU) ซึ่งเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนเชิงเสรี ก็ออกมาต่อต้านพฤติกรรมดีแบงกิ้งของสถาบันการเงิน เนื่องจากส่งผลเสียต่อการเข้าถึงระบบการเงิน จุดยืนนี้ทำให้พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตมีแนวคิดที่ตรงกันบางส่วน

หากร่างกฎหมายนี้ผ่านการพิจารณา ไม่เพียงแต่อุตสาหกรรมคริปโตเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์ แต่ธุรกิจอย่างอุตสาหกรรมปืน กัญชา และเรือนจำเอกชนก็จะสามารถเข้าถึงบริการธนาคารได้สะดวกขึ้น วงการคริปโตมองว่านี่เป็นสัญญาณเชิงบวกที่จะช่วยลดความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ และบรรเทาความเสี่ยงในการดำเนินงานในอนาคต