ความเชื่อมั่นในอีเธอเรียม(ETH) ร่วงต่ำสุดในรอบปี ผู้เชี่ยวชาญชี้อาจเป็นสัญญาณกลับตัว

ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในอีเธอเรียม(ETH) ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบปี แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่านี่อาจเป็น 'สัญญาณกลับตัว' สู่แนวโน้มขาขึ้น

เมื่อวันที่ 5 ตามเวลาท้องถิ่น บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบนบล็อกเชนอย่าง 'แซนติเมนท์(Santiment)' เปิดเผยผ่าน X (เดิมคือทวิตเตอร์) ว่ากระแสบนโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับอีเธอเรียมในช่วงปีที่ผ่านมาได้เปลี่ยนไปในทางลบมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทชี้ว่าแนวโน้มเชิงลบนี้อาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาฟื้นตัว เมื่อตลาดเริ่มกลับมามีเสถียรภาพ

ข้อมูลของแซนติเมนท์ระบุว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่กล่าวถึงอีเธอเรียมบนแพลตฟอร์มอย่าง X, เรดดิต และเทเลแกรม อยู่ในระดับที่อ่อนแอกว่าเมื่อเทียบกับบิตคอยน์(BTC) และสกุลเงินดิจิทัลหลักอื่น ๆ ทว่าผู้เชี่ยวชาญหลายรายมองว่าความรู้สึกเชิงลบที่รุนแรงนี้ อาจเป็น ‘สัญญาณตรงข้าม’ ซึ่งบ่งบอกถึงโอกาสกลับตัวสู่ภาวะขาขึ้น

ไมค์ เคฮิลล์(Mike Cahill) ซีอีโอของดูโร แล็บส์(Douro Labs) แสดงความเห็นว่า “หากพิจารณาจากอดีต เราจะพบว่าเมื่อความเชื่อมั่นเข้าสู่ภาวะซบเซาถึงขีดสุด มักเป็นจุดต่ำสุดของตลาด” พร้อมเสริมอีกว่า “ราคามักเป็นตัวเคลื่อนไหวก่อน จากนั้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนจึงปรับตาม การมองปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวจึงสำคัญกว่าการกังวลกับภาวะตลาดระยะสั้น” นอกจากนี้ เขายังกล่าวว่า “เมื่อความผันผวนลดลง อีเธอเรียมจะได้รับอานิสงส์จากการกลับมาของสภาพคล่องและความสนใจจากนักลงทุนสถาบัน”

ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ราคาของอีเธอเรียมปรับตัวลดลงกว่า 20% โดยล่าสุดอยู่ที่ 2,176 ดอลลาร์ (ประมาณ 317 ล้านบาท) ในขณะที่บิตคอยน์ลดลงเพียง 10% ซึ่งถือว่ามีเสถียรภาพมากกว่าหากเทียบกัน

โดมินิก จอห์น(Dominick John) นักวิเคราะห์จากโครโนส รีเสิร์ช(Kronos Research) มองว่า แม้อีเธอเรียมจะมีแนวโน้มที่อ่อนแอ จนอาจสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนระยะสั้น แต่ความเชื่อมั่นเชิงลบสุดขั้วนี้มักหมายถึง ‘จุดต่ำสุดของตลาด’ ทั้งนี้ เขายังระบุว่าปัจจัยหลักที่อาจช่วยผลักดันราคาให้กลับมาได้ รวมถึง 'โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย' และ 'การอนุมัติ ETF ที่อิงกับการสเตกอีเธอเรียม' ซึ่งอาจเป็นตัวเร่งสำคัญ

นอกจากนี้ พบว่า 'เวิลด์ ลิเบอร์ตี ไฟแนนเชียล(World Liberty Financial, WLFI)' แพลตฟอร์มดีไฟ(DeFi) ที่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวของประธานาธิบดีทรัมป์ ได้เข้าซื้ออีเธอเรียมเพิ่มอีก 10 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 146 ล้านบาท) ซึ่งชี้ให้เห็นว่านักลงทุนสถาบันบางกลุ่มยังคงให้ความเชื่อมั่นระยะยาว

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ตลาดมองว่าปัจจัยอย่าง กิจกรรมบนเครือข่ายอีเธอเรียมที่ลดลง การหดตัวของมูลค่ารวมที่ถูกล็อก (TVL) และปัญหาด้านอุปทานโทเคน เป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยที่กดดันราคาในช่วงที่ผ่านมา แต่แซนติเมนท์ระบุว่า อัตราส่วนมูลค่าตลาดต่อมูลค่าที่เกิดขึ้นจริง (MVRV) ของอีเธอเรียมได้ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน ซึ่งจากสถิติในอดีต อาจบ่งชี้ถึงโอกาสการฟื้นตัวเช่นเดียวกับรอบก่อนหน้า