อูเบอร์(Uber) เล็งใช้สเตเบิลคอยน์ปรับระบบชำระเงินข้ามพรมแดน ลดต้นทุนธุรกรรมทั่วโลก

อูเบอร์(Uber) บริษัทผู้ให้บริการแชร์รถระดับโลก กำลังพิจารณานำ *สเตเบิลคอยน์* มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของระบบชำระเงินข้ามพรมแดน โดย ดารา คอสโรรฌาฮี(Dara Khosrowshahi) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอูเบอร์ เปิดเผยว่า เทคโนโลยีสเตเบิลคอยน์เป็นสิ่งที่ "น่าตื่นเต้นอย่างมาก" และบริษัทกำลังอยู่ในช่วงศึกษาความเป็นไปได้ในการนำมาใช้งานจริง

เมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา ในงานประชุม Bloomberg Tech Summit ที่เมืองซานฟรานซิสโก คอสโรรฌาฮีระบุว่า การนำ *สเตเบิลคอยน์* มาใช้สามารถช่วยลดต้นทุนของการดำเนินธุรกรรมระหว่างประเทศ และทำให้การโอนเงินทั่วโลกมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เขาเสริมว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในการหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทในระดับโลก

อูเบอร์เริ่มส่งสัญญาณถึงความสนใจใน *การชำระเงินด้วยคริปโต* มาตั้งแต่ปี 2021 อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังบริษัทหันมาให้ความสำคัญกับกรณีการใช้งานจริงที่สามารถช่วยปรับปรุงกระบวนการภายในได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น

แนวโน้มดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐกำลังพิจารณากฎหมาย ‘GENIUS Act’ ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรค เพื่อจัดทำกรอบกฎหมายที่ชัดเจนสำหรับสเตเบิลคอยน์ ขณะเดียวกัน ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐอย่างซิตี้กรุ๊ปและเวลส์ฟาร์โก ก็เริ่มเดินหน้าพัฒนาโปรเจกต์เกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์ของตนเองเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนเมษายน มาสเตอร์การ์ด ได้จับมือกับ OKX และ Nuveiเพื่อเปิดตัวระบบการชำระเงินโดยใช้ *สเตเบิลคอยน์* ระดับโลก ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินดิจิทัลยอดนิยม เช่น เมต้าแมสก์, คราเคน และไบแนนซ์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมแบบไร้รอยต่อ

สำหรับอูเบอร์ซึ่งมีการดำเนินงานในกว่า 70 ประเทศ และมากกว่า 15,000 เมืองทั่วโลก *สเตเบิลคอยน์* อาจกลายเป็นโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพในการจ่ายค่าตอบแทนให้กับคนขับ, ดำเนินการชำระเงินจากลูกค้า รวมถึงลดความซับซ้อนของขั้นตอนการแลกเปลี่ยนสกุลเงินเดิม *ความเห็น:* ชัดเจนว่าการเคลื่อนไหวของอูเบอร์ในครั้งนี้ไม่ใช่แค่แนวคิดลอยๆ แต่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการนำคริปโตมาใช้ในธุรกิจจริง ซึ่งอาจส่งผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต