บิตคอยน์(BTC) กำลังขยายอิทธิพลอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและการหลั่งไหลของเงินลงทุนจากสถาบันต่างๆ ในช่วงต้นปี 2025 ราคาของบิตคอยน์สามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ 100,000 ดอลลาร์ได้สำเร็จ ซึ่งนับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดความสนใจใน ‘การขุดเหรียญด้วยตนเอง’ หรือ *Personal Mining* เพิ่มขึ้นอย่างมาก บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างไมโครสเตรทเทอจี(MSTR) และเมตาแพลนเน็ต ต่างก็นำบิตคอยน์มาใช้เป็นสินทรัพย์ในงบดุล ขณะที่แนวโน้มการกลับมาของทรัมป์และทิศทางนโยบายที่เอื้อต่อวงการคริปโต ทำให้นักลงทุนมีความหวังกับอนาคตของสกุลเงินดิจิทัลมากยิ่งขึ้น
ในปัจจุบัน วิธีเริ่มต้นขุดบิตคอยน์มีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ ‘ล็อตโต้มายนิ่ง’ สำหรับมือใหม่ ไปจนถึงการใช้เครื่องเฉพาะชนิด ASIC, การเข้าร่วมกลุ่มขุดแบบ *Pool Mining* และการเช่าเครื่องผ่านคลาวด์มายนิ่ง ซึ่งแต่ละวิธีมีจุดเด่นและข้อจำกัดแตกต่างกัน ทั้งเรื่องต้นทุน ค่าดูแลรักษา และอัตราผลตอบแทน
*ล็อตโต้มายนิ่ง* คือการใช้เครื่องที่มีกำลังประมวลผลต่ำมาก แต่ก็ยังมีโอกาส *เล็กน้อย* ที่จะหาเจอบล็อกใหม่ได้สำเร็จ เสมือนลุ้นล็อตเตอรี่ โดยในเดือนกรกฎาคม 2024 มีกรณีที่นักขุดรายย่อยสามารถขุดบล็อกได้สำเร็จด้วยเครื่องที่มีพลังเพียง 3TH/s และได้รับรางวัลสูงถึง 3.192 BTC หรือราว 43.7 ล้านบาท เหตุการณ์เช่นนี้แม้จะหายากแต่ก็สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ที่สนใจอยากเข้าวงการ ตัวอย่างอุปกรณ์ที่นิยมใช้ได้แก่ Bitaxe HEX และ GekkoScience R909 ซึ่งมีราคาอยู่ที่ประมาณ 60,000 บาท จุดมุ่งหมายของกลุ่มนี้โดยมากคือเพื่อการเรียนรู้และมีส่วนร่วมกับเครือข่าย มากกว่าการสร้างผลกำไร
หากต้องการยกระดับไปอีกขั้น การขุดแบบ *ASIC* ส่วนตัวเป็นทางเลือกที่จริงจังยิ่งขึ้น เครื่องรุ่นใหม่อย่าง Antminer S21 Hydro ซึ่งมีกำลังถึง 400TH/s ให้ประสิทธิภาพสูงและประหยัดไฟกว่าเครื่องรุ่นก่อนๆ แต่แม้จะใช้เครื่องเดียว โอกาสในการขุดบล็อกได้ในแต่ละวันก็มีเพียง 1 ใน 8.6 พันล้านเท่านั้น การสร้างกำไรมักต้องอาศัยการลงทุนเครื่องหลายสิบตัวเพื่อเพิ่มกำลังขุดเป็นหลัก *เพตะเฮช* ถึงแม้ต้นทุนสูงและการจัดการซับซ้อน แต่หากขุดได้จริง รางวัลทั้งหมดจะตกเป็นของผู้ขุดเพียงคนเดียวซึ่งเป็นจุดขายสำคัญ
แนวทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่ผู้ใช้ทั่วไปคือ *พูลมายนิ่ง* การเข้าร่วมกลุ่มขุดร่วมกับผู้อื่นในเครือข่าย ซึ่งแบ่งปันกำลังขุดและรางวัลกัน ทุกคนจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนประจำวันตามอัตราส่วนที่ตนมีในพูล ตัวอย่างผู้ให้บริการพูล เช่น Foundry USA, Antpool และ ViaBTC โดยมีระบบการแบ่งรางวัลที่หลากหลาย เช่น FPPS และ PPLNS ข้อดีของพูลประเภทนี้คือการตั้งค่าง่าย และความมั่นคงของรายได้ที่พอจะคาดการณ์ได้
สำหรับคนที่ไม่มีเครื่องขุดหรือไม่สะดวกติดตั้งอุปกรณ์เอง *คลาวด์มายนิ่ง* ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง ผู้ใช้สามารถเช่ากำลังขุดจากผู้ให้บริการ และรับรางวัลตามสัดส่วนของกำลังที่ลงทุนโดยไม่ต้องดูแลฮาร์ดแวร์ บริษัทที่มีชื่อเสียงในสายนี้ ได้แก่ NiceHash, BitDeer และ ECOS อย่างไรก็ตาม *ความคิดเห็น* หลายฝ่ายเตือนว่า โมเดลนี้มีความเสี่ยงทั้งในแง่การถูกหลอกลวงและผลตอบแทนที่ต่ำ โดยเฉพาะค่าส่วนต่างของราคารับจ้าง ความผันผวนของค่าธรรมเนียม และความยากของเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้หลายรายขาดทุนก่อนถึงจุดคุ้มทุน
การเลือกขุดบิตคอยน์จากที่บ้าน ไม่เพียงหมายถึงการแสวงหารายได้ แต่ยังรวมถึงการเข้าไปมีบทบาทในเครือข่ายบิตคอยน์อย่างแท้จริง สิ่งสำคัญคือต้องเลือกแนวทางที่สอดคล้องกับงบประมาณและเป้าหมายของตนเอง เพราะในโลกของการขุด *รายได้อาจไม่ใช่ทุกอย่าง* มุมมองระยะยาว และการเรียนรู้เทคโนโลยี อาจเป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่ากว่าสำหรับหลายคน
ความคิดเห็น 0