ทรอน(TRX) โชว์รายได้ทะลุ 1.14 ล้านดอลลาร์ในวันเดียว แซงหน้าอีเธอเรียม(ETH) และโซลานา(SOL)

**ทรอน(TRX) โชว์รายได้รายวันถล่มบล็อกเชนอื่น เผยโมเดลธุรกิจเน้นการใช้งานจริง**

ทรอน(TRX) สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในโลกคริปโตเมื่อสามารถทำรายได้จากค่าธรรมเนียมเครือข่ายทะลุ 1.14 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 15.88 ล้านบาท) ภายในระยะเวลาเพียง 24 ชั่วโมง สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วตลาดบล็อกเชนที่มีการแข่งขันสูง โดยมีผลงานที่โดดเด่นทั้งในระยะสั้น และศักยภาพการเติบโตในระยะยาว

จากข้อมูลของแพลตฟอร์มวิเคราะห์บล็อกเชน ดีไฟลามา (DefiLlama) รายได้เครือข่ายของทรอนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อยู่ที่ราว 1,142,000 ดอลลาร์ ขณะที่อีเธอเรียม(ETH) และโซลานา(SOL) ทำได้เพียง 174,677 ดอลลาร์ และ 175,708 ดอลลาร์ ตามลำดับ หากพิจารณารายได้สะสมในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ทรอนโกยรายได้รวมสูงถึง 49.2 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 684.8 ล้านบาท) ซึ่งมากกว่าอีเธอเรียมถึง 3 เท่า (14.78 ล้านดอลลาร์) และมากกว่าโซลานาเกิน 10 เท่า (4.61 ล้านดอลลาร์)

ความสำเร็จดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ จุดแข็งหลักของทรอนคือการเป็นเครือข่ายหลักของ **เทเธอร์(USDT)** ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ที่ถูกใช้งานจริงในด้านการโอนเงินและการชำระเงิน ส่งผลให้มีความต้องการใช้งานเครือข่ายอย่างสม่ำเสมอ และสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมที่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง ความมั่นคงนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ ซึ่งแยกตัวออกจากบล็อกเชนอื่นที่มักพึ่งพาการเก็งกำไรหรือดีมานด์ชั่วคราว

ในขณะที่อีเธอเรียมเดินหน้าเน้นนวัตกรรมสมาร์ตคอนแทรกต์ และโซลานามุ่งเน้นด้านความเร็วเพื่อล่อให้นักพัฒนาเข้าใช้ เครือข่ายทรอนกลับเลือกเส้นทางที่แตกต่าง ด้วยการโฟกัสไปยังระบบการชำระเงินและการโอนเงินที่มั่นคง ทำให้สามารถสร้างรายได้แบบยั่งยืน ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่า “กลยุทธ์ของทรอนไม่ได้เน้นการตลาด แต่เน้นไปที่การใช้งานจริงและโมเดลรายได้ระยะยาว” ซึ่งถือเป็นทิศทางที่แตกต่างจากเหล่าอัลท์คอยน์จำนวนมากที่มีพฤติกรรมราคาขึ้นลงอย่างรุนแรง

ในช่วงหลัง ราคาของเหรียญ TRX เองก็อยู่ในแนวโน้มที่ค่อนข้างนิ่ง แม้มีการปรับขึ้นเป็นระยะ แต่ไม่แสดงสัญญาณความผันผวนรุนแรงเหมือนเหรียญอื่นขนาดใหญ่ ปัจจัยนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเครือข่ายทรอน ซึ่งประกอบด้วยการใช้งานจริงจำนวนมาก การไหลเข้าของ USDT และระบบรายได้แบบ ‘ออนเชน’ ที่แน่นอน

ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญคาดว่า หากสถานะของเทเธอร์ในระดับโลกยังคงแข็งแกร่ง เครือข่ายทรอนซึ่งเป็นอินฟราสตรักเจอร์หลัก จะยิ่งเติบโตและจับตลาดได้มากขึ้น สิ่งที่ทรอนพิสูจน์ให้ตลาดเห็นแล้วคือ จุดแข็งของมันอยู่ที่ *การใช้งานจริง* และ *รายได้ที่จับต้องได้* ไม่ใช่การเก็งกำไร

ท่ามกลางสภาพตลาดที่วุ่นวาย ทรอนกลายเป็นเครื่องเตือนใจว่า โมเดลธุรกิจที่มีประสิทธิภาพคือกุญแจแห่งความสำเร็จในโลกคริปโต ไม่ใช่ฟองสบู่ที่ไร้พื้นฐาน