บิตคอยน์(BTC) พุ่งทะลุ 104,000 ดอลลาร์ หลังทรัมป์กดดันเฟดลดดอกเบี้ย

บิตคอยน์(BTC) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ยกระดับการกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ลดดอกเบี้ย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐออกมาแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดไว้ และทรัมป์ได้พุ่งเป้าการวิจารณ์ไปที่ประธานเฟด เจโรม พาวเวลล์ พร้อมเรียกร้องให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยด่วน

เมื่อวันที่ 6 (เวลาท้องถิ่น) ในช่วงเปิดตลาดหุ้นนิวยอร์ก บิตคอยน์ทะลุระดับ 104,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.44 ล้านบาท) แม้จะเป็นระดับแนวต้านระยะสั้นที่เคยกดราคาลงมาก่อน ‘การเรียกร้องให้ลดดอกเบี้ย’ ของทรัมป์ดูเหมือนจะจุดประกายความเชื่อมั่นภายในตลาดให้กลับคืนมาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลต่อเนื่องเกี่ยวกับท่าทีการเงินแบบเข้มงวดของเฟด โดยเฉพาะเมื่ออัตราการว่างงานล่าสุดของสหรัฐปรากฏต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ นักวิเคราะห์ตลาดมองว่า ความแข็งแกร่งของข้อมูลแรงงานอาจเป็นเหตุผลที่เฟดจะยังไม่ลดดอกเบี้ย และนั่นอาจส่งผลลบต่อสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงการลงทุนในคริปโต

*ความคิดเห็น*: มีการพูดถึงอีกครั้งว่าราคา ‘บิตคอยน์อาจเผชิญแรงเทขายอย่างรุนแรง (cascade)’ หากภาวะสภาพคล่องในตลาดไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงที่นักลงทุนเริ่มคาดหวังผิดจากความเคลื่อนไหวสั้นๆ

นักวิเคราะห์คริปโตเตือนว่า แม้ราคาในปัจจุบันจะดูแข็งแกร่ง แต่หากไม่มีปัจจัยสนับสนุนที่แท้จริง เช่น เงินทุนไหลเข้าหรือความชัดเจนด้านนโยบาย การฟื้นตัวนี้อาจกลับทิศอย่างรวดเร็ว มีรายงานว่าขณะนี้ ‘โอเพ่นอินเทอเรส (Open Interest)’ หรือมูลค่าสัญญาคงค้างในตลาดอนุพันธ์กำลังเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นชนวนให้เกิด ‘การปรับฐาน’ ของราคาอย่างฉับพลัน

ความเคลื่อนไหวรุนแรงจากแถลงการณ์ของทรัมป์ยังส่งผลให้ตลาดเกิดความไม่แน่นอน เพราะการแทรกแซงเชิงการเมืองต่อโยบายการเงินของเฟดอาจทำให้การตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐเผชิญความยากลำบากมากขึ้น ท่ามกลางความไม่ชัดเจนเหล่านี้ ราคาบิตคอยน์จึงยังแสดง ‘ความผันผวนอย่างมีนัย’ ตอบรับต่อทั้งข้อมูลเศรษฐกิจและแรงกดดันจากการเมืองอย่างใกล้ชิด