ราคาของอีเธอเรียม(ETH) อาจสร้างฐานที่ 1,600 ดอลลาร์ หลังจากปรับตัวลดลงต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2023 ปัจจุบัน ผู้ถือ ETH ทั้งเครือข่ายบันทึก ‘ผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง’ เฉลี่ย 7%
ในขณะที่บิตคอยน์(BTC) และริปเปิล(XRP) มีการฟื้นตัวเล็กน้อย แต่อีเธอเรียมยังคงเผชิญกับแรงต้านที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์ โดยเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1,752 ดอลลาร์ ข้อมูลบนบล็อกเชนและการวิเคราะห์ทางเทคนิคบ่งชี้ว่า ETH อาจลดลงอีก 15% ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ข้อมูลจาก Glassnode เผยว่า ‘ราคาที่เกิดขึ้นจริง’ (Realized Price) ของอีเธอเรียมอยู่ที่ 2,054 ดอลลาร์ แต่ในช่วงราคาที่ปรับฐานล่าสุด ทำให้ราคาลดลงต่ำกว่าระดับสำคัญดังกล่าวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2023 โดยราคาที่เกิดขึ้นจริงคือค่าเฉลี่ยต้นทุนของ ETH ทุกโทเคนที่อยู่ในระบบ ซึ่งหมายความว่าผู้ถือ ETH ส่วนใหญ่กำลังเผชิญกับ ‘ผลขาดทุนที่เกิดขึ้น’
อีกหนึ่งตัวชี้วัดสำคัญ ได้แก่ อัตราส่วน ‘มูลค่าตลาดต่อมูลค่าที่เกิดขึ้นจริง’ (MVRV) ที่ลดลงเหลือ 0.93 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ถือเหรียญทั้งเครือข่ายขาดทุนเฉลี่ย 7% นอกจากนี้ มูลค่าสินทรัพย์ที่ถูกล็อก (TVL) ในภาค DeFi ของอีเธอเรียม ณ วันที่ 12 มีนาคม ลดลงเหลือ 45,600 ล้านดอลลาร์ ลดลง 41% จากเดือนธันวาคม 2023 ที่ 77,000 ล้านดอลลาร์
สำหรับแนวโน้มราคา Glassnode ประเมินว่าช่วงราคา 1,600–1,900 ดอลลาร์อาจเป็นระดับที่น่าสนใจ ขณะที่นักวิเคราะห์นิรนาม ‘Ninja’ คาดการณ์ว่าแนวรับหลักของ ETH อยู่ที่ 1,600–1,900 ดอลลาร์ และมีโอกาสปรับตัวขึ้นสู่ 2,500 ดอลลาร์ในระยะสั้น
โดยสรุป ทิศทางราคาของอีเธอเรียมจะขึ้นอยู่กับกระแสซื้อบริเวณ 1,600 ดอลลาร์ และสภาวะตลาดโดยรวม หาก ETH สามารถรักษาระดับ 1,900 ดอลลาร์ได้ โอกาสฟื้นตัวมีมากขึ้น แต่หากร่วงสู่ 1,600 ดอลลาร์ การปรับฐานเพิ่มเติมอาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ความคิดเห็น 0