แรงขับเคลื่อนในการผลักดันร่างกฎหมายสำรองบิตคอยน์เชิงกลยุทธ์ (Strategic Bitcoin Reserve หรือ SBR) ในสหรัฐฯ กำลังทวีความร้อนแรง หลังจากที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์และแอริโซนาได้ริเริ่มและผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นผลสำเร็จ เดนิส พอร์เตอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมูลนิธิซาโตชิ แอ็คชัน ให้ความเห็นว่า “มีความเป็นไปได้สูง” ที่จะมีอย่างน้อย 2 รัฐเพิ่มเติมผ่านร่างกฎหมาย SBR ภายใน 60 วันนี้
พอร์เตอร์ระบุว่า “นี่ไม่ใช่แค่การคาดเดา เพราะเรามีตัวอย่างความสำเร็จจากสองรัฐแล้ว และขณะนี้มีอีกสองรัฐที่กำลังเข้าสู่กระบวนการออกกฎหมาย ซึ่งมีโอกาสสำเร็จสูงมาก” โดยหนึ่งในรัฐที่ถูกพูดถึงคือยูทาห์ ซึ่งช่วงต้นปีได้ผ่าน ‘ร่างแก้ไขด้านบล็อกเชนและนวัตกรรมดิจิทัล’ ในคณะกรรมการสภาผู้แทนฯ ด้วยคะแนนถล่มทลาย 8 ต่อ 1 และอีกหนึ่งรัฐที่มีแนวโน้มเห็นชอบร่าง SBR ภายใน 2 เดือนคือเท็กซัส
สำหรับ *‘ผลกระทบของ SBR ต่อราคา* *บิตคอยน์(BTC)’* นั้น ผู้เชี่ยวชาญหลายรายเห็นพ้องว่า แรงซื้อจากนักลงทุนสถาบัน รวมถึงกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (Sovereign Wealth Fund) ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันตลาดสู่ ‘ภาวะกระทิง’ ส่งผลให้ *ดัชนีความกลัวและความโลภของบิตคอยน์(BTC)* พุ่งเกิน 70% ซึ่งสะท้อนถึงภาวะ ‘โลภแรง’ ของนักลงทุน
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา บิตคอยน์สามารถทำผลงานได้โดดเด่นกว่าทองคำและตลาดหุ้น โดยทะลุระดับ *10,000 ดอลลาร์สหรัฐ* เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ *ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี*
แพลตฟอร์มคัลซี (Kalshi) ซึ่งดำเนินงานด้านการวิเคราะห์ตลาดเชิงคาดการณ์ในสหรัฐฯ รายงานว่า ราคา *บิตคอยน์(BTC)* มีแนวโน้มแตะระดับ *131,000 ดอลลาร์* ภายในสิ้นปี 2025
จากมุมมองทางเทคนิค นักวิเคราะห์ได้ชี้ว่า ราคาในขณะนี้กำลังเคลื่อนไหวตามรูปแบบเดียวกันกับวัฏจักรขาขึ้นในปี 2017 ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึง ‘การเร่งตัวแบบพาราโบลา’ ที่อาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
**ความคิดเห็น:** การที่หลายรัฐในสหรัฐฯ เริ่มนำบิตคอยน์มาเป็นทรัพย์สินสำรองทางยุทธศาสตร์ อาจเป็นการวางรากฐานสู่การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับรัฐบาลอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต
ความคิดเห็น 0