เจ้าหน้าที่ตำรวจยุโรปเผยเมื่อวันที่ 14 (เวลาท้องถิ่น) ว่า ได้จับกุมสมาชิก 17 รายของกลุ่มที่ถูกขนานนามว่า ‘ธนาคารคริปโตของมาเฟีย’ หลังมีบทบาทสำคัญในการฟอกเงินผิดกฎหมายผ่านสกุลเงินดิจิทัลให้กับเครือข่ายอาชญากรรม โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีฐานอยู่ในประเทศจีนและตะวันออกกลาง คาดว่ามูลค่าคริปโตที่ถูกนำมาใช้สำหรับการฟอกเงินนั้นสูงถึง 21 ล้านยูโร หรือประมาณ 343 ล้านบาท
ยูโรโพล (Europol) ระบุในแถลงการณ์ว่า เครือข่ายนี้ให้บริการฟอกเงินแก่แก๊งลักลอบเข้าเมืองและเครือข่ายค้ายาเสพติด ด้วยการสร้างระบบปิดบังเส้นทางเงินแบบติดตามได้ยาก ตำรวจสเปนเปิดเผยเพิ่มเติมว่า กลุ่มอาชญากรเหล่านี้อาศัยระบบส่งเงินนอกระบบชื่อ ‘ฮาวาลา’ (Hawala) และใช้ *คริปโตเคอร์เรนซี* เป็นหนึ่งในเครื่องมือชำระค่าตอบแทน
จากปฏิบัติการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 17 คน โดย 15 คนในสเปน 1 คนในออสเตรีย และอีก 1 คนในเบลเยียม พร้อมยึดทรัพย์สินรวมมูลค่าราว 4.5 ล้านยูโร หรือประมาณ 73 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย *คริปโตเคอร์เรนซี* จำนวน 183,000 ยูโร (ราว 2.67 ล้านบาท) เงินสด 421,000 ยูโร (ประมาณ 6.15 ล้านบาท) รถยนต์ 18 คัน ปืนลูกซอง 4 กระบอก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก รวมถึงบัญชีธนาคารทั้งหมด 77 บัญชีที่เชื่อมโยงกับกลุ่มดังกล่าว
สื่อท้องถิ่นในสเปนเรียกกลุ่มนี้ว่า ‘ธนาคารคริปโตของมาเฟีย’ พร้อมระบุว่าระบบฟอกเงินที่พวกเขาใช้มีความซับซ้อนและเป็นความลับสูง นอกจากนี้ยังพบการครอบครองสิ่งของฟุ่มเฟือย เช่น นาฬิกาหรู กระเป๋าแบรนด์เนม และซิการ์ รวมมูลค่ากว่า 876,000 ยูโร หรือราว 12.79 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ประเมินว่าคดีนี้เป็นหลักฐานที่ชี้ให้เห็นขอบเขตของการเงินผิดกฎหมายบนพื้นฐานระบบฮาวาลาในยุโรปอย่างชัดเจน และประกาศจุดยืนว่าจะเข้มงวดกับปฏิบัติการฟอกเงินโดยใช้ *คริปโตเคอร์เรนซี* มากยิ่งขึ้นในอนาคต
ความคิดเห็น 0