เวิลด์ ลิเบอร์ตี้ ไฟแนนเชียลทุ่ม 3 ล้านดอลลาร์ซื้ออีโอเอส(EOS) ดันราคาพุ่ง 9% ทะลุแนวต้านสำคัญ

เวิลด์ ลิเบอร์ตี้ ไฟแนนเชียล(WLFI) ได้เข้าซื้อโทเคน *อีโอเอส(EOS)* มูลค่า 3 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ราคา *อีโอเอส* พุ่งขึ้นกว่า 9% แม้อยู่ในช่วงตลาดคริปโดยรวมกำลังเผชิญการปรับฐานก็ตาม การเคลื่อนไหวครั้งนี้สร้างความสนใจอย่างมาก เนื่องจากเกิดขึ้นท่ามกลางสภาวะตลาดที่ไม่ได้เอื้ออำนวย

จากข้อมูล *ออนเชน* พบว่า WLFI ใช้เงินประมาณ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือเทียบเท่า *USDT* ซื้อ *อีโอเอส* ทั้งหมด 3.636 ล้านโทเคน ที่ราคาเฉลี่ยประมาณ 0.824 ดอลลาร์ ก่อนหน้านี้ราคา *อีโอเอส* อยู่ที่ราว 0.77 ดอลลาร์ แต่หลังการซื้อ ราคาพุ่งขึ้นแตะ 0.86 ดอลลาร์ และปัจจุบันย่อลงเล็กน้อยอยู่ที่ประมาณ 0.85 ดอลลาร์ ส่งผลให้ในช่วง 24 ชั่วโมง *อีโอเอส* ปรับตัวขึ้นกว่า 9.39% และสามารถฝ่าจุดแนวต้านสำคัญในช่วง 0.80–0.84 ดอลลาร์ได้สำเร็จ

จังหวะการเข้าซื้อครั้งนี้เกิดขึ้นในระยะที่มูลค่าตลาดคริปโตโดยรวมลดลงจากระดับ 3.27 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เน้นการปรับพอร์ต จึงยิ่งเสริมภาพบวกให้กับการเคลื่อนไหวของ *อีโอเอส* ในครั้งนี้

*บิตคอยน์เซนเซอร์ส* นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง รายงานว่า *อีโอเอส* ได้สร้างรูปแบบ ‘ลิ่มขาลงขยายตัว’ (Falling Expanding Wedge) มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2022 ซึ่งเป็นสัญญาณบวกที่สื่อถึงการสะสมซื้อจากนักลงทุนในระยะยาว โดยระบุว่า แม้โมเมนตัมจะยังอ่อน แต่จิตวิทยาการลงทุนเริ่มฟื้นตัวเป้าหมายถัดไปของราคาคือ 1.30 ดอลลาร์ และ 1.95 ดอลลาร์

อีกปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนราคา *อีโอเอส* คือกระบวนการรีแบรนด์เป็นโครงการ *วอลตา(Vaulta)* ซึ่งเป็นเครือข่ายเว็บ3 ด้านธนาคาร โดยภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม ผู้ถือ *อีโอเอส* สามารถนำโทเคนเดิมมาแลกเป็นโทเคนใหม่ '$A' ได้ในอัตรา 1:1 โทเคนสวอปเริ่มขึ้นตั้งแต่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจาก *คริปโตดอทคอม* ซึ่งเป็นพันธมิตรของ *ทรัมป์ มีเดีย แอนด์ เทคโนโลยี กรุ๊ป(DJT)*

แม้แนวโน้มภาพรวมจะดูดี แต่นักลงทุนยังควรระมัดระวัง เนื่องจากราคา *อีโอเอส* ยังไม่สามารถกลับไปแตะจุดสูงสุดก่อนหน้านี้ที่ 0.98 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมได้ และการปรับขึ้นล่าสุดส่วนใหญ่เป็นผลจากการซื้อของ WLFI เพียงรายเดียว หากตลาดขาดแรงหนุนเพิ่มเติม ราคาก็อาจกลับลงมาอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม หาก *อีโอเอส* สามารถยืนเหนือแนวรับ 0.84 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง โอกาสที่ราคาจะทะลุระดับ 1 ดอลลาร์จะเพิ่มขึ้นมาก ในช่วงสัปดาห์นี้การจับตาความแข็งแกร่งของแรงซื้อตลาดจะเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินทิศทางระยะสั้นของโทเคนนี้