สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้เข้าหารือกับบริษัทเอเวอร์สเทก(Everstake) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ *โนน์คัสโตเดียลสเตกกิง* ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับนิยามของการสเตกกิงในเครือข่ายบล็อกเชน
การหารือครั้งนี้มีทีมเฉพาะกิจด้านคริปโตเคอร์เรนซีของ SEC เข้าร่วมด้วย ท่ามกลางสถานการณ์ที่สินทรัพย์ดิจิทัลรวมมูลค่ากว่า 193,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 281.78 ล้านล้านวอน (ราว 7 ล้านล้านบาท) ถูกสเตกอยู่ในเครือข่ายที่ใช้กลไก *โพรฟออฟเสตก(PoS)* อย่างไรก็ตาม การสเตกกิงในสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในพื้นที่สีเทาทางกฎหมายเนื่องจากยังไม่มีการจำแนกอย่างชัดเจนภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ของประเทศ
ก่อนหน้านี้ SEC เคยดำเนินมาตรการทางกฎหมายกับแพลตฟอร์มหลักอย่าง *คราเคน, คอยน์เบส,* และ *คอนเซนซัส* เรื่องบริการสเตกกิง แต่ในระยะหลังดูเหมือนว่านโยบายจากฝ่ายบริหารของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ซึ่งมีแนวโน้มสนับสนุนคริปโต ได้เริ่มคลี่คลายแรงกดดันจากทางหน่วยงานกำกับดูแล
ในการประชุม เอเวอร์สเทกเน้นย้ำว่า *โนน์คัสโตเดียลสเตกกิง* ไม่ควรถูกจัดเป็นการซื้อขายหลักทรัพย์ เพราะผู้ใช้งานยังคงมี ‘การควบคุมสินทรัพย์เต็มรูปแบบ’ ตลอดกระบวนการ โดยไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ไปให้บุคคลภายนอก ดังนั้น บริการนี้จึงถือเป็นฟังก์ชันทางเทคนิค ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์เพื่อการลงทุน
เซอร์ไฮ วาซิลชุค(Sergii Vasylchuk) ผู้ก่อตั้งเอเวอร์สเทกกล่าวว่า “การสเตกกิงไม่ใช่การลงทุนหรือการซื้อขายหลักทรัพย์ แต่มันคือกลไกเทคโนโลยีที่ช่วยรักษาความสมบูรณ์ของระบบกระจายศูนย์ เปรียบได้กับฟังก์ชันของ *oracle* ในฐานข้อมูล”
หลายฝ่ายเชื่อว่าการหารือครั้งนี้จะเป็น ‘จุดเปลี่ยน’ สำคัญต่อการกำหนดทิศทางของ SEC ในการออกกฎควบคุม *โนน์คัสโตเดียลสเตกกิง* อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางกระแสความสนใจในนโยบายคริปโตของประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งกำลังส่งอิทธิพลต่อทิศทางกฎหมายในหลายด้าน
ความคิดเห็น 0