ราคา *อีเธอเรียม*(ETH) พุ่งขึ้นแรงเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของตลาด หลังจากปรับตัวขึ้นกว่า 2.5% ภายใน 24 ชั่วโมง จนแตะระดับประมาณ 2,536 ดอลลาร์ (ราว 3.7 แสนบาท) โดยราคาสูงสุดรายวันอยู่ที่ 2,551 ดอลลาร์ (ราว 3.72 แสนบาท) ซึ่งถือเป็นการพลิกฟื้นจากจุดต่ำสุดของวันก่อนหน้าที่ประมาณ 2,440 ดอลลาร์ภายในระยะเวลาอันสั้น
แนวโน้มขาขึ้นล่าสุดนี้สอดคล้องกับรูปแบบทางเทคนิคที่เรียกว่า ‘*ธงขาขึ้น (Bull Flag)*’ ซึ่งนักวิเคราะห์บางรายมองว่า สัญญาณนี้อาจช่วยผลักดันให้อีเธอเรียมทะลุระดับ 3,000 ดอลลาร์ (ราว 4.38 แสนบาท) ภายในเดือนนี้
การปรับตัวแรงของราคายังส่งผลกระทบต่อกลุ่มนักลงทุนที่เปิด *สถานะขายชอร์ต* โดยข้อมูลจาก *Cointelegraph Markets Pro* และ *Bitsamp* ชี้ว่า เพียงชั่วโมงเดียวของวันที่ 18 พฤษภาคม มีการล้างพอร์ตชอร์ตอีเธอเรียมรวมมูลค่าราว 7.5 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.09 พันล้านบาท) ส่วนตลอดทั้งวันมียอดการชอร์ตถูกปิดรวมกันเกิน 22 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.21 พันล้านบาท) ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนใน *จิตวิทยาตลาด*
ขณะเดียวกัน เทรดเดอร์บางส่วนตั้งเป้าราคากลางถึงระยะสั้นของ ETH ไว้ที่ 3,700 ดอลลาร์ (ราว 5.4 แสนบาท) พร้อมคาดการณ์ว่า *บิตคอยน์*(BTC) อาจพุ่งแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ (ราว 7.3 แสนบาท) ภายในเดือนพฤษภาคม ทั้งนี้ แนวโน้มบวกดังกล่าวไม่ได้เกิดจากปัจจัยกระตุ้นระยะสั้น แต่สะท้อนถึงทิศทางฟื้นตัวเชิงเทคนิคอย่างชัดเจน รวมถึงแรงซื้อจากสถาบันที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การไต่ระดับขึ้นไปอีกจำเป็นต้องมีการ *ทะลุแนวต้านระยะสั้น* ประกอบกับการปรับตัวดีขึ้นของ *ข้อมูลออนเชน* ทั้งหมดนี้ต้องพิจารณาควบคู่กับปัจจัยมหภาคอย่าง *นโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์* และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดทิศทางของราคาในตลาดสินทรัพย์ในระยะถัดไป
ความคิดเห็น 0